Ladprao General Hospital

แผนกผิวหนังดีมากครับ คุณหมอเก่งเเละวินิจฉัยโรคได้แม่นยำ เอาใจใส่ผู้ป่วยดีมาก ตลอดจนพยาบาลและบุคลากรทุกท่านใน รพ. มีอัธยาศัยดีครับ

ผมรักษาที่นี่มาตลอด ประกันสังคมจะนานโครต ต้องใช้ประกันเสริมตัวอื่นจะดีมาก
โรงพยาบาลลาดพร้าว เป็นโรงพยาบาลขนาด 200 เตียง ตั้งอยู่เลขที่ 2699 ถนนลาดพร้าว ระหว่างซอย 95 - 97 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร บนเนื้อที่ 1.5 ไร่ ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 27 เมษายน 2533 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรกหนึ่งล้านบาท ในนามของ บริษัท โรงพยาบาลลาดพร้าว จำกัด โดยกลุ่มแพทย์และนักธุรกิจชั้นนำ ซึ่งมีดร. อังกูร ฉันทนาวานิช กรรมการผู้จัดการ เป็นผู้เริ่มกิจการ และเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2536 ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2536 บริษัทฯ ได้จดทะเบียน เป็นบริษัทมหาชน ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนห้าร้อยล้านบาท และมีจำนวนพนักงานทั้งสิ้นประมาณ 500 คน 

ผู้บริหารโรงพยาบาลลาดพร้าว มีวิสัยทัศน์ ในการให้บริการตามมาตรฐานสากล เพื่อความเป็นเลิศในการรักษาบริการ จึงดำริให้เริ่มดำเนินการจัดทำระบบคุณภาพตามมาตรฐานสากล ISO 9002 โดยมีสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษาโครงการ ในวันที่ 20 สิงหาคม 2541 และได้ผ่านการตรวจประเมินโดย SGS Yarsley International Certification Service Limited (SGS) ในวันที่ 10 มิถุนายน 2542 โดยเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกที่ได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐาน ISO 9002 จาก UKAS และ NAC Thailand และมาตรฐานการ รักษาพยาบาล Healthmark จาก New Zealand ทั้งองค์กร ทุกระบบ ในวันที่ 9 กันยายน 2542 และสิ้นสุดการรับรองในเดือนสิงหาคม 2545

ผู้บริหารโรงพยาบาลลาดพร้าว ไม่เพียงตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาคุณภาพ ในการรักษาบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการเท่านั้น แต่ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญในการรับผิดชอบต่อชุมชนใกล้เคียง อันเนื่องมาจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สืบเนื่องจากกิจกรรมของโรงพยาบาล ดังนั้นในวันที่ 23 มีนาคม 2543 โรงพยาบาลได้เริ่มดำเนินการจัดทำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 โดยมีสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติเป็นที่ปรึกษาโครงการ ผ่านการตรวจประเมินโดย SGS Yarsley International Certification Service Limited (SGS) ในวันที่ 14 - 15 มีนาคม 2544 และได้รับใบรับรองการจัดการสิ่งแวดล้อมมาตรฐาน ISO 14001 ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2544 จาก UKAS และ NAC Thailand

ทั้งองค์กรทุกระบบ และทางโรงพยาบาลลาดพร้าว รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกท่านได้ร่วมกันพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางคณะกรรมการโรงพยาบาลได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการตัดสิน และมีมติให้โรงพยาบาลลาดพร้าวได้รับรองคุณภาพมาตรฐาน HA เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546 ซึ่งตัวแทนของโรงพยาบาลได้เข้ารับในงาน National Forum on Quality Improvement and Hospital Accreditation เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2546

แย่มากค่ะ วันนั้นปวดหลังมากไปใช้สิทธิประกันสังคม หมอประกันสังคม คุยกันอยู่ 3 คำ ไม่ถึง 1 นาที บอก แค่ปวดเมื่อย รอรับยา อยากถามว่านี่ตรวจแล้วใช่ไหมอ่ะ ให้ยาแก้ปวดมากินแผงนึง แย่เกินแบบนี้ จ่ายประกันสังคมแต่ต้องไปเสียเงินที่คลีนิค เจอ กล้ามเนื้ออักเสบ มานั่งคิดไม่น่าย้าย รพ. มาใช้ลาดพร้าวเลย

รักษากับที่นี่มาเกิน 20 ปีแล้ว คุณภาพจัดว่าดีเลยหล่ะค่ะ จนท. ส่วนใหญ่ยิ้มแย้มเต็มใจให้ บริการทั้ง 3 อาคาร ไม่ว่าจะประกันสังคม ประกันสุขภาพ หรือจ่ายเงินเอง อะไรไม่ดี ควรปรับปรุงแจ้งไป ก็ดูเหมือนจะมีทีมดูแลข้อร้องเรียนนะคะ เพราะเห็นถึงการปรับปรุงคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง. ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ

แผนก surgery center พยาบาลและบุคลากรส่วนใหญ่ แย่มาก บางคนใช้สายตามองคนไข้และญาติคนไข้ด้วยสายตาที่ไม่เหมาะสม ส่วนใหญ่ยืนและนั่งจับกลุ่มคุยกัน บางคนใช้โทรศัพท์คุยแชท ระหว่างการทำงาน เป็นแผนกที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยรักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้มา

ผมผ่าตัดมาผ่าน4เดือน แต่ไม่รุ้ทำไมรู้สึกปวดจีดๆในท้องแต่พอไปเจอหมอบอกผมได้เป็นไรทั้งทีไม่ได้ตรวจไรเลย

โรงพยาบาลเอกชนย่านลาดพร้าว อยู่ติดถนนลาดพร้าว การเดินทางถ้ามาจากทางด่วนรามอินทรา ลงตรงทางลงลาดพร้าว (โชคชัย 4) แล้วหาทางยูเทิร์นกลับมาทางมุ่งหน้าไปบางกะปิ จะผ่านอิมพีเรียลเวิร์ลด์ลาดพร้าว วิ่งตรงมาเรื่อยจนถึงศูนย์อีซูซุเตรียมชิดซ้าย พอถึงฟู้ดแลนด์ก็เตรียมเลี้ยวซ้ายซอยด้านข้างได้เลยครับ
สำหรับที่จอดรถก็มีพอเพียง หาจอดได้ไม่ยากเท่าไหร่ครับ แต่จอดแล้วต้องเดินลุยแดดเข้าไปโรงพยาบาลหน่อยนึงครับ หรือถ้าใครไม่อยากเดินก็มีรถกอล์ฟบริการไปส่งหน้าโรงพยาบาลเลยก็ได้ครับ
สำหรับการบริการก็อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ดีและก็ไม่แย่จนเกินไป แพทย์เฉพาะทางก็มีพอสมควร การรักษาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานครับ

วันนี้ไปตรวจเนื่องจากเป็นผื่นแดงและมีตุ่มใสๆคาดว่าอาจจะแพ้อะไรบางอย่าง แต่มันเป็นทั้งตัวและเเยอะมาก พอเจอหมอ หมอเปิดเสื้อแค่ครึ่งตัวและบอกว่าไม่ได้แพ้อะไรเลย เป็นแค่ผิวหนังอักเสบ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แล้วก็เล่นโทรศัพท์ต่อ คือแบบชิวมาก วินิฉัยโรคแบบส่งๆ ดูไม่ pro เลยกับการที่คุณมาเป็นหมอ ถ้าทำแบบนี้คิดว่าคนไข้ไปหายารักษาเองจะง่ายกว่าการมาหาหมอ ถ้ามาแล้วไม่แนะนำอะไรเลย บอกว่าใช้ชีวิตได้ปกติ คือแนะนำแบบนี้ได้ยังไง เพราะจากข้อมูลคนที่เป็นผิวหนังอักเสบเขามีข้อห้ามต่างๆ ถ้าแนะนำแบบนี้คนที่ไม่มีความรู้ก็ไม่หายสักทีสิค่ะ ถ้าเขาใช้สบู่หรืแครีมอาบน้ำที่เป็นกรด มีน้ำหอมมีส่วนผสมที่ทำให้แพ้ มันจะยิ่งแพ้หนักไหมอะ ถ้าโรงพยาบาลได้อ่านก็ขอความกรุณานำไปพัฒนาหมอให้มีคุณภาพกว่านี้ให้สมกับนโยบายนะคะ ขอบคุณค่ะ

เจ้าหน้าที่และพยาบาลแย่มาก โดยเฉพาะแผนกจักษุ แค่ถามว่ายื่นบัตรได้หรือยังคะ ตอบกลับมาด้วยเสียงเหยียดหยามมาก ประกันสังคมทางโน้นนะคะพร้อมกับสะบัดหน้าเดินไป ทรามมากค่ะ ใช้ประกันสังคมผิดเหรอคะคุณพยาบาล ถ้าไมอยากทำออกไปเลยค่ะ

พวกผมไม่ได้อยากจะมาโรงพยาบาล​หรอกนะครับช่วยดูแลดีๆหน่อยไม่ใช่บอกให้ออกมารอข้างนอกแล้วให้รปภ. มาถามแบบนี้เสียความรู้สึกครับ

ล่าสุดไปรักษามา บริการแย่มากพยาบาลบางคนก็ดีแต่ส่วนใหญ่ยื่นเม้าส์มอยคนไข้รอคิวก็นานพอได้พบหมอ ก็บอกหมอไปว่าเป็นไข้สูงแต่หมอเช็คแล้วหมอบอกว่าเราไม่มีไข้ จะไม่มีไข้ได้ไงก็รู้สึกตัวร้อนหนาวสั่นปวดหัวขนาดนี้ พอเอาที่วัดมาวัดปรากฎว่าไข้สูงถึง 38.9 ทีนี้หมอก็ให้ยาฆ่าเชื้อยาแก้ไข้ต่างๆนี่งงเลย 38.9 นี่อีกนิดคือให้หวัดใหญ่แล้วนาทีนี้คือต้องหามไปแอดมิดแล้ว พอตรวจเสร็จหมอให้นั่งรออีกสามชม. จนเราช็อคไปเลยจ้า นี่ขนาดช็อคมือหงิกแล้วเรียกพยาบาลจนปากจะฉีกแล้วก็ยังไม่มีใครมาสักที สุดท้ายพอหายอาการช็อคก็พบหมออีกครั้ง ครั้งนี้เราเอ่ยปากขอแอดมิดเองเลย ตัดไปถึงตอนแอดมิดใช้หมอถึงสองคนยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าเราป่วยเป็นอะไรเจาะเลือดไปถึงสี่รอบยังไม่พบสาเหตุสุดท้ายหมอสรุปง่ายๆว่าเป็นไข้ติดเชื้อธรรมดาโอ้โห. นี่ธรรมดาไข้ขึ้นสูงภายในสามชม. แถมยังท้องเสียและอวกอีกนี่ไม่ธรรมดาแล้วมั้ง สุดท้ายหมอให้ยาฆ่าเชื้อทางสายน้ำเกลือผ่านไปสามวันอาการเริ่มดีขึ้นบ้าง ย้ำว่า “บ้าง” เราเลยขอกลับบ้านเพื่อที่จะย้ายไปโรงพยาบาลอื่น จบ.

ห้องพักกว้างขวาง สะอาด ทั้งหมอ นางพยาบาล และพนักงานห้องฉุกเฉินบริการประทับใจ แต่ถ้าไม่จำเป็นขอไม่มาเช็คอินดีกว่า

คนไข้เยอะ เลยรอนานอันนี้เข้าใจคะ แต่เป็นผื่น นูน แดง หมอบอกว่า "ยุงกัด" ให้นาเหมือนครีมทาผิวมาตลับนึง ยาแก้แพ้มา จนวันนี้จะครบ 1 อาทิตย์แล้ว ยังไม่หายเลย กำลังคิดอยู่ว่าจะไปตรวจซ้ำกับแพทย์เฉพาะทางดีไหม หรือไปรพ. อื่น

พยาบาลส่วนใหญ่ดูแลดี บางคนก็ธรรมดา ยังไม่เจอพยาบาลแย่ ๆ

แต่ที่ตลกคือนโยบายของโรงพยาบาล. พักห้องเดี่ยว คืนละ สี่พันกว่า นอนอยู่เกือบสิบวัน ขอสบู่เพิ่ม บอกต้องซื้อ ให้แค่วันแรกวันเดียว

ถามว่าถ้านอน สามเดือนขอเพิ่มได้มั้ย พยาบาลบอกไม่ได้ ได้แค่วันแรกวันเดียวค่ะ!

จะหากำไรแม้กระทั้งขายสบู่ แล้วคิดดู ค่ารักษาพยาบาลจะบวกหนักหนักแค่ไหน

บริการแย่มากๆ ไม่รู้ได้ HA มาได้อย่างไร เอาเงินไปให้ยังพูดจากับคนไข้ไม่ดี นอน Admit 1คืน เหมือนตกนรก ห่างๆ รพ. ลาดพร้าวไว้แล้วจะไม่เสียใจทีหลัง

ภรรยาใช้ ปกส. และ AIA เข้า Admit หมอที่ดูแล พยาบาล พูดจาห่วยแตกมาก ไม่ใส่ใจปัญหาของคนไข้ ทำแบบขอไปที ใครจะเลือกใช้เป็น รพ. ปกส. คิดใหม่นะ ปีหน้าจะย้ายไป รพ. อื่นล่ะ

This is a business center. My friend went diagnosed with cancer. Spent large amount of money with them, PT scan etc. Then went to Rama and they found nothing. Went there today for workpermit checkup. Same drama, they suspect tuberculosis.
I will not go there again. Doctors are business men nothing else. Cheaters

**ทำไม่ไม่รับยาจึงcharge เต็มราคา
เนื่องจากตัวยาปรับฮอร์โมนที่รพ. มีแค่ยี่ห่อเดียวแบบเดียวเป็นตัวที่เราแพ้ และรพ. ลาดพร้าวไม่มียี่ห้ออื่น จึงต้องไปซื้อข้างนอกอันนี้ยังพอรับได้อยู่นึกว่ายอดจะไม่เยอะ แต่มาcharge เต็ม1,200บาท คืออะไร ค่าบริการ200 ค่าศัลยกรรมหัตถการ1,000
คราวที่แล้วทั้งตรวจและได้ยา /แต่คราวนี้ไม่ได้ขึ้นตรวจแค่คุยกับแพทย์และไม่ได้ยาก็เก็บเต็ม แบบนี้ก็ได้เหรอ ปล. เราใช้สิทธิ์ประกันกลุ่ม

โรงพยาบาลลาดพร้าว รับบัตรประกันสังคม ผู้ป่วยมารับการรักษาที่นี่เยอะมาก รอคิวนานหน่อย ถ้าต้องการเร็วต้องใช้บริการอีกตึกนึงซึ่งตึกนั้นจะไม่ได้รับประกันสังคม ชำระด้วยเงินสด หรือบัตร ไวแน่นอน!
มีพื้นที่จอดรถพอสมควร แต่ต้องวนๆหน่อย
หมอและพยาบาลดูแลดี

คนไข้เยอะมากโดยเฉพาะสำหรับคนใช้ประกันสังคม แต่ก็ต้องทำใจคงเป็นเหมือนๆกันหมดสำหรับการใช้สิทธิ์แบบนี้. ขอชมเชยคุณหมอ นพ. สมิทธิ์ จินดากุล ผมไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เท่าที่ผ่านการตรวจจากคุณหมอที่นี่หลายๆ ท่าน คุณหมอสมิทธิ์ เอาใจใส่คนไข้ แม้กระทั่งชื่อของคนไข้ที่เขียนบนแฟ้มแล้วหมออ่านไม่ออก แถมยังสังเกตอาการอื่นที่ไม่ได้ตั้งใจมารักษาว่าคุณเป็นนั่นนี่นะ หลังจากออกมาจากห้องตรวจ ผมเห็นว่าคุณหมอเปิดประตูออกมาเรียกคนไข้รายต่อไปด้วยตัวเองเลย เพราะไม่มีผช. พยาบาลมาประจำหน้าห้องคอยเรียกผู้ป่วยรายถัดต่อจากผม. หากคุณมาหาหมอด้วยโรคทั่วไป อายุรกรรม ผมแนะนำเลยครับ