Wat Thung Saliam

ไหว้หลวงพ่อศิลา บรรยากาศของวัดร่มรื่น เดินทางสะดวก ที่จอดรถกว้างขวาง เหมาะกับการไหว้พระทำบุญ

หลวงพ่อศิลาเป็นพระพุทธรูปประจำ อ. ทุ่งเสลี่ยม องค์พระเป็นพระนาคปรก สวยงาม ภายในวัดมีนักท่องเที่ยวมากราบไหว้ปกติ วัดกำลังก่อสร้างวิหารหลังใหม่เพิ่มเติม ใครอยากร่วมทำบุญ เรียนเชิญที่วัดทุ่งเสลี่ยม อ. ทุ่งเสลี่ยม เลยค่ะ

เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดในอำเภอทุ่งเสลี่ยม มีองหลวงพ่อ ศิลา ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ อยู่คู่บ้านคู่เมืองครับ

วัดดังของทุ่งเสลี่ยมเลยนะ เป็นข่าวที่มีพระหลวงพ่อศิลาถูกลักหายไปเป็นสิบๆปี แล้วมีคนไปพบที่อังกฤษ กว่าจะได้คืนมา
หลวงพ่อศิลา ประทับอยู่บนมณฑป สวยสง่า วัดนี้สงบ สะอาด ไม่มีความวุ่นวาย หรือตู้เรี่ยรายเกินจำเป็นเลย
แนะนำว่าถ้ามีเวลาเชิญชวนให้แวะนมัสการหลวงพ่อศิลา จ. สุโขทัย

กราบหลวงพ่อศิลาอายุ1000กว่าปี งดงามมากครับ วัดเงียบสงบผู้คนไม่พลุกพล่าน ได้ไหว้ไก้ถ่ายรูปจนพอใจ รู้สึกอิ่มเอมใจมาก ได้เช่าหลวงพ่อศิลาทองเหลืองรมดำหน้าตัก 5 นิ้วสร้างปี 2559 กลับไปบูชาที่บ้านด้วย โบสถ์กำลังก่อสร้างมาร้วมทำบุญกันครับ

องค์พระพูธรูปเก่าแก่ สวยงามมาก สร้างจากศิลาขาว มีโอกาสผ่านมาที่อำเภอทุ่งสเรียม จังหวัดสุโขทัย ขอเชิญมากราบไห้วเพื่อเป็นศิริมงคล

หลวงพ่อศิลาที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดดูใหม่และผิวองค์รูปก็ดูเนียน ผิดจากของเก่าซึ่งหายไปที่เห็นในภาพถ่าย

A lesser known national treasure, this statue is also among the oldest (if not the oldest) statue of Buddha in Thailand. There's a colorful story about how the statue was stolen and sold off to Sotheby's then later retrieved from an art dealer in the US by a team of scholars from Ministry of Education.

The pictures show when King Rama IX bestowed the statue (once retrieved after it was stolen for 19 years) back to the Thung Saliam temple.

วิหารไม่ค่อยได้รับการเแล
แต่โบสถ์ที่ประดืษฐานหลวงพ่อศิลา
สะอาดเรียบร้อยดีแยกโซนจุดธูปเทียน
ดีมากคะ

Wat Thung Saliam is one of the holiest Buddha temples in the Sukhothai. The atmosphere of this temple is absolutely peaceful, is the place which enshrined Stone Buddharupa or Luang Por Sila which is made of white sandstone with khmer art style in Angkorian period which influences architecture in Angkor Wat- Lopburi, was built in 11th century - 12th century.

หลวงพ่อศิลา เป็นองค์พระศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของ ปชช. อำเภอทุ่งเสลี่ยม และทุกคน ที่ได้เยี่ยมชมเคารพบูชา สวยงาม มีพลัง

If you are in the area, you should visit this temple and pay respect to the Buddha image inside the vihara.

@สุโขทัย #ที่นี่ทุ่งเสลี่ยม
วันนี้ ตั้งใจไปวัดที่ทุ่งเสลี่ยม 2 วัด และนี่คือวัดที่ 2
คนเยอะเหมือนกันแต่ไม่หนาแน่นนัก เราจึงได้เข้าไปไหว้พระ ขอพร หลวงพ่อศิลา 1,000 ปี ได้ตามที่ตั้งใจไว้
หลวงพ่อศิลา เป็นพระพุทธรูปนาคปรก ปางสมาธิ สกัดจากหินทรายสีเทา เป็นพระพุทธรูปที่ชาวทุ่งเสลี่ยมต่างเลื่อมใส และเคารพ ด้านความศักดิ์สิทธิ์ในการขอให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และโชคลาภ

(เล่ากันว่า พ. ศ. 2520 ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้ามาโจรกรรมพระศิลาไปจากพระอุโบสถใหญ่ วัดทุ่งเสลี่ยม พระศิลาจึงได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย อีก 17 ปีต่อมา เมื่อ พ. ศ. 2537 กลุ่มอนุรักษ์ชาวไทยในต่างแดนได้พบข่าวพระศิลาในประเทศอังกฤษ จึงได้มีการประสานงานหลายฝ่ายแล้วจึงได้นำพระพุทธรูปล้ำค่าของไทยกลับคืนมาใน พ. ศ. 2539)

หลวงพ่อศิลา วัดทุ่งเสลี่ยม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวทุ่งเสลี่ยม เป็นพระหินนาคปรก ไปกราบไหว้ขอพรกันได้
ถ้าไปไม่มีรถส่วนตัวเหมือนผม แนะนำให้เช่ามอไซด์จากโรงแรมป้าทองสุข ตรงบขส. สุโขทัย แล้วออกแต่เช้ามาครับ

องค์หลวงพ่อเป็น พระพุทธรูปศิลานาคปรก หินทราย สีเทา สวยมากๆ ครับ
เห็นแล้วรู้สึกศรัทธา นอกจากความสวยงามของหลวงพ่อศิลาแล้ว ยังเป็นสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก

ประวัติ
เดิมหลวงพ่อศิลาประดิษฐานอยู่ที่ถ้ำเจ้าราม เป็นถ้ำหินธรรมชาติขนาดใหญ่ มีค้างคาวพันธ์ุบัวอาศัยอยู่จำนวนมาก เมื่อปี 2472 ท่านครูบาก๋วน วัดแม่ปะหลวง อ. เถิน จ. ลำปาง ได้รวบรวมผู้คนเดินทางไปถ้ำเจ้ารามเพื่อ อัญเชิญพระพุทธรูปศิลานาคปรก ออกมาจากถ้ำ เมื่อมาถึงบริเวณวัดทุ่งเสลี่ยมได้เกิด ปาฎิหาริย์ท้องฟ้าที่แจ่มใส แดดร้อน ในเดือน เมย กลับมีเมฆฝน เกิดฝนตกหนัก เมื่อฝนหยุด ก็มีฝูงค้างคาวบินวนเวียนเหนือวัด แล้ว บินกลับถ้ำเจ้ารามไป เมื่อชาวบ้านทุ่งเสลี่ยมได้เห็นความศักดิ์สิทธิ์นี้ จึงได้อัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดทุ่งเสลี่ยม ตั้งแต่นั้น และเรียกว่า "พระศิลา"
ต่อมา เมื่อวันที่ 29 ตุลา 2520 ได้มีกลุ่มคนร้ายโจรกรรมพระพุทธรูปศิลาไปจากวัดทุ่งเสลี่ยม และหายสาบสูญ ไร้ร่องรอย
จากนั้น ปี 2538 ได้มีกลุ่มอนุรักษ์ชาวไทยในลอนดอนได้พบภาพพระพุทธรูปศิลาจากสถาบันการประมูลวัตถุโบราณ จึงได้ส่งจดหมาย และ ภาพถ่าย ถึง บรรณาธิการนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ประเทศไทย ทำให้คนไทยตื่นตัวที่จะตามเอากลับประเทศไทย
จากการติดตามอย่างจริงจัง ทั้งภาครัฐ โดย รตท เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ รมช. กระทรวงศึกษาธิการสมัยนั้น และ ภาคเอกชน โดย นายธนินทร์ เจียรวนนท์ บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ นาย วัลลภ เจียรวนนท์ กรรมการบริหาร ได้บริจาคเงินเป็นจำนวน 5.2 ล้านบาท ทำให้สามารถติดตามคืนมาได้สำเร็จเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2539
จากนั้น คณะทำงานได้อัญเชิญขึ้น น้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 เนื่องในปีกาญจนาภิเษกเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2540 และ พระองค์ทรงโปรดพระราชทานให้นำพระพุทธรูปศิลานาคปรก กลับคืนไปประดิษฐาน ณ. วัดทุ่งเสลี่ยมดังเดิมเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2540

วัดนี้ก็เป็นวัดที่คนส่วนใหญ่จะเรียกว่าวัดหลวงพ่อศิลา ศักดิ์สิทธิ์มากๆ ถ้ามีโอกาสควรจะไปขอพรท่านสักครั้งเพราะท่านมีอายุประมาณ 400ปี รวมทั้งประวัติความเป็นมาของท่านก็น่าสนใจมากๆเลยนะคะ

สายบุญควรเข้าไป กราบสักการะพระพุทธรูปศิลาปางนาคปรกที่เก่าแก่ งดงามเข้มขลังอย่างน่าทึ่ง
รอบๆวัดเป็นชุมชนชาวบ้านที่สร้างรายล้อมรอบวัด เป็นแบบชนบทล้านนา แบบเดิมๆผสมกับร้านค้าที่นำเอาการพัฒนาเข้ามาให้ความสะดวกในการใช้ชีวิต

วัดทุ่งเสลี่ยม สถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อศิลา พระพุทธรูปแกะสลักจากหินทรายปางนาคปรกศิลปะลพบุรี หลวงพ่อศิลาเคยถูกโจรกรรมและขายไปต่างประเทศเป็นเวลา 17 ปี ก่อนที่ทางการไทยจะช่วยกันติดตามและนำกลับมาประดิษฐานที่วัดทุ่งเสลี่ยมตามเดิม
หากมีโอกาสมาเยือนทุ่งเสลี่ยม การมาสักการะหลวงพ่อศิลานี้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดครับ

เป็นวัดในตำนานที่บรรพบุรุษได้ไปยกหลวงพ่อศิลามาใว้ชึ่งตอนแรกหลวงพ่อศิลาอยู่ในถ้ำไม่มีใครยกได้แต่บรรพบุรุษเป็นคนยกออกมาได้ชึ่งถือว่าเป็นผู้มีบุญญาธิการ

วัดทุ่งเสลี่ยม ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งเสลี่ยม ตำบลทุ่งเสลี่ยมอำเภอทุ่งเสลี่ยมจังหวัดสุโขทัย เป็นสถานที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อศิลา พระพุทธรูปหินทรายปางนาคปรกที่งดงามที่สุดองค์หนึ่ง ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุนับพันปี   พระพุทธรูปสกัดจากหินทรายสีเทา ศิลปะทวารวดี พบอยู่ในถ้ำเจ้าราม เคยถูกโจรกรรม และกลับมาประดิษฐานที่วัดทุ่งเสลี่ยมเทศบาลตำบลทุ่งเสลี่ยม  ชาวสุโขทัยและ จังหวัดใกล้เคียงต่างศรัทธาเลื่อมใสต่อหลวงพ่อศิลาเป็นอย่างมาก เป็นที่เลื่องลือเลื่อมใสในพลังอันศักดิ์สิทธิ์และได้รับความสนใจ ในความงดงามด้านศิลปะ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันที่ทางวัดทุ่งเสลี่ยมจัดงานสักการะหลวงพ่อศิลา ถือได้ว่าเป็นวัด ที่มีพุทธศาสนิกชน จากอำเภอทุ่งเสลี่ยม และจากอำเภอต่างๆ ทั่วทุกจังหวัดมาร่วมงานสักการะหลวงพ่อศิลาเป็นจำนวนมากในงานจะมี ขบวนแห่ครัวทาน ขบวนพานพุ่มที่สวยงาม

หลวงพ่อศิลา เป็นพระพุทธรูปนาคปรก ปางสมาธิ สกัดจากหินทรายสีเทา ที่กระบังหน้ามีแนวขึ้นตรงกลาง ลักษณะบ่งบอกว่า ทำขึ้นในประเทศไทย มีลักษณะพิเศษชัดเจนคือมีผ้าทิพย์รองรับตัวองค์พระ ปกติจะเป็นเส้นตรง มีลายดอกจันที่ขุดลึกลงไปในเนื้อหิน ต่างจากส่วนใหญ่เป็นลายขีดธรรมดา ทรงกรองศอพาหุรัด สวมศิราภรณ์ สวมมงกุฎเทริดพระพักตร์ทรงสี่เหลี่ยมคล้าย ศิลปะขอม โบราณพระพักตร์ไม่แย้มพระโอษฐ์เหมือน ศิลปะบายน ประทับนั่งขัดสมาธิราบ บนฐานขนาดนาคสามชั้น นาคที่ปรกอยู่เหนือ พระเศียรมีเจ็ดเศียร ด้านหลังหางนาคพาดขึ้นมาถึงลำตัว มีลวดลายแบบศิลปะลพบุรีสร้างขึ้นในราวปีพุทธศักราชที่18-19 ขนาดองค์พระ วัดจากรากฐานถึงปลายยอดเศียรนาคสูง 85.50 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 44 เซนติเมตร น้ำหนัก 126.5 กิโลกรัม
หลวงพ่อศิลา เดิมประดิษฐานอยู่ถ้ำเจ้ารามมีฝูงค้างคาวอาศัยอยู่มาก ชาวบ้านไปหามูลค้างคาว พบพระพุทธรูปทำด้วยศิลาปางนาค ปรกเมื่อกลับถึงหมู่บ้าน ชาวบ้านไปบอก พระอภัยที่เป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งเสลี่ยมหารือกับผู้ใหญ่บ้านว่าจะอัญเชิญหลวงพ่อศิลา มาไว้ วัดทุ่งเสลี่ยม เนื่องจากพระอภัยสูงอายุ เดินทางไม่ไหว จึงได้ล้มเลิก ความรู้ถึงครูบาก๋วนเจ้าอาวาสวัดแม่ปะหลวงตำบลแม่ปะอำเภอเถิน จังหวัดลำปางนำชาวบ้านไปอัญเชิญหลวงพ่อศิลา เมื่อเข้าไปในถ้ำเจ้ารามพบพระพุทธรูปปางนาคปรก มีค้างคาวบินวนเวียนมากมาย ครูบาก๋วนได้อัญเชิญพระพุทธรูปออกจากถ้ำเจ้าราม ในราวปี2472-2475 เดินทางกลับด้วยความลำบาก ผ่านหนองปลาซิว (บ้านห้วยทราย) หนองส้มป่อย (บ้านน้ำดิบ) จนถึงทุ่งเสลี่ยม ชาวทุ่งเสลี่ยมจัดขบวนแห่ต้อนรับ เมื่อถึงวัดทุ่งเสลี่ยมเกิดปาฏิหาริย์ขึ้น ท้องฟ้าที่แจ่มใส ก็ถูกบดบังด้วยเมฆฝน เกิดฝนตกหนักเป็นเวลานาน เมื่อฝนหยุดตกมีฝูงค้างคาวบินวนเหนือวัดทุ่งเสลี่ยม แล้วบินกลับ ถ้ำเจ้าราม ชาวบ้านเห็นความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูป ไม่ยอมให้ครูบาก๋วนอัญเชิญกลับไปยังอำเภอเถิน  เจ้าอาวาสวัดทุ่งเสลี่ยม จึงหารือกับเจ้าคณะอำเภอสวรรคโลก ซึ่งตกลง ให้พระพุทธรูปศิลาประดิษฐานที่วัดทุ่งเสลี่ยม ชาวบ้านตั้งชื่อว่า "หลวงพ่อศิลา" ครูบาก๋วนจึงได้จำลองหลวงพ่อศิลา อัญเชิญไปไว้ที่วัดแม่ปะหลวง อำเภอเถิน จังหวัดลำปางด้วยใจศรัทธา