Wat Saphan Hin

3rd July 2023.
The highlight of the west area is definitely Wat Sapuan Hin. Worth 100baht, the cycle & climb up the hill for the tranquility & serenity. I think another 25baht for bringing the bicycle in.
My visit was interrupted by a brief rain shower but I was the only visitor.
South from here are other historical sites all the way till the Dam, also worth the time & effort too.

Very beautiful historical monument
I went there by bicycle around evening time
There are also many historical sites along the way that you can visit together
Requires climbing (the stone steps are about 200 meters)

You can rent a motorcycle or a bicycle
Take a guided tour of the many monuments around the ancient city

The road is smooth and safe, and the natural trees around are huge
Can feel the clean air
Full of enjoyment

The Buddha statue faces the east, so it is recommended to get up early if possible so that you can easily see the sunrise or morning mist.
The clouds and the scenery of the ancient city in the evening are also great

The long stone road to the top gives people a mysterious feeling. There is a 13-meter standing Buddha, and other pagodas have been damaged.

โบราณสถานวัดสะพานหิน

เป็นวัดเก่าแก่ที่มีสถานที่ตั้งสวยงาม อยู่บนเนินเขาเล็กๆทำเลดี ตอนแรกเข้าใจว่าบันไดหินเป็นกำแพงหิน พอเข้าไปใกล้ๆเลยเข้าใจว่าเป็นบันไดสำหรับเดินขึ้น การเดินขึ้นไปไม่ยากแต่ก็พอได้หอบเหมือนกัน สถานที่มีการดูแลรักษาอย่างดี สะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย เมื่อขึ้นไปถึงวัดแล้วลองมองออกไปด้านหน้าวัด วิวจะสวยมาก อยากให้ไปดูด้วยตาตัวเองกัน

The Buddha is on the top of the mountain after a long walk up through the stone stairs. Admission fee is 100 bahts per person.

Beautiful temple and definitely worth the climb up. It is located outside the park, so a bicycle or car is recommended. Ticket THB100

A nice, short but fun hike up a granite walkway to a giant standing Buddha statue and one of the best views of the Sukothai valley (including the Historical Park (only a few of the taller buildings visible over the trees). For me, this was the most interesting temple in the Aryanik (forest dwelling) region of Sukothai.

บรรยากาศสงบ มีพระธุดงค์คอยเวียนแวะมาปรากฏ ปฏิบัติธรรม
นับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกที่หนึ่ง
ในจังหวัดสุโขทัย

สถานที่เงียบสงบ ควรมาช่วงเช้าเดินขึ้นเนิน ระยะทาง 300 ม. มองลงมาเห็นวิว หากขึ้นช่วงเย็นจะเปลี่ยว

นี่คือจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ดีที่สุดแล้วในสุโขทัย แต่ระวังหน่อย ตอนเช้ามืดน่ากลัวมาก ต้องไปหลายคนและระวังกันหน่อย

15ปีที่แล้วหลังวันลอยกระทง เกิดเหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยวสาวชาวญี่ปุ่น โทโมโกะ คาวาชิตะที่นี่ (ขออนุญาตเอ่ยชื่อ). จนถึงปัจจุบันยังจับฆาตกรไม่ได้! ทำให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นลดจำนวนมาสุโขทัยลงอย่างฮวบฮาบ.
วัดสะพานหินมีทางเดินที่โรยด้วยหินแข็งแรงมั่นคงจากที่จอดรถถึงตัววัด300เมตร. บางช่วงห่างบางช่วงชัน. ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยหรือคนชรา70ปีขึนครับ. อันตรายอยู่. จุดสวยงามคือมาก่อน6.00น. ชมพระอาทิตย์ขึ้นงดงามมากมายครัย

แค่เห็นสะพานหินที่ต้องเดินขึ้นไป ลมกูก็แทบจับล่ะ เลยส่งฝอที่มาด้วยขึ้นไปแทน มันบอกสวยดี มองเห็นวิวรอบๆ เพราะข้างบนนั้นดูใหม่สมบูรณ์ ใครขาแข้งแข็งแรง ไม่เพลียแตดแบบกรู เชิญเลยจร้าาา แล้วมารีวิวต่อให้ด้วย

อีผึ้งเมิงมาขึ้นแทนกูเลย!

เป็นวัดที่มีหินกองเป็นทางเดินขึ้นไปที่ตัววัดประมาณ300เมตร ทางเดินระวังพลิกลื่น กว่าจะถึงด้านบนเล่นเอาหอบเหมือนกัน ด้านบนวิวสวย

วัดสะพานหิน เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่บนเนินภูเขาลูกเตี้ยๆ ทางทิศตะวันตกของเมืองสุโขทัย ชื่อวัดเรียกตามลักษณะทางขึ้นที่ปูลาดด้วยหินจากตีนเขาขึ้นไป จนถึงบริเวณลานวัดบนภูเขา
ที่แห่งนี้มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่น่าจะตรงกับที่ศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวถึงเมืองสุโขทัยสมัยพ่อขุนรามคำแหงว่า “…ในกลางอรัญญิก มีพิหารอันณึ่งมนใหญ่สูงงามแก่กม มีพระอัฎฐารศอันณึ่งลุกยืน…” ซึ่ง “พระอัฏฐารศ” ที่ปรากฏในศิลาจารึกนั้น เข้าใจว่าหมายถึง พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัยที่วัดสะพานหินนี่เอง และน่าจะเป็นวัดที่พ่อขุนรามคำแหงทรงช้างเผือกชื่อ “รูจาคีรี” เพื่อไปนบพระในวัดนี้ทุกวันข้างขึ้นและแรม 15 ค่ำ ดังปรากฏข้อความในศิลาจารึกหลักเดียวกันนี้ว่า
“…วันเดือนดับเดือนเต็ม ท่านแต่งช้างเผือกกระพัดลยาง เที้ยรย่อมทองงา…ขวา ชื่อรูจาครี พ่อขุนรามคำแหง ขึ้นขี่ไปนบพระ (เถิง) อรัญญิกแล้วเข้ามา…”
บริเวณลานวัดสะพานหินมีกลุ่มโบราณสถานประกอบด้วย
ฐานวิหาร 5 ห้อง ก่ออิฐ เสาทำด้วยศิลาแลง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ภายในวิหารมีพระพุทธรูปปูนปั้นยืน ปางประทานอภัย ยกพระหัตถ์ขวา​เรียกว่า “พระอัฏฐารศ” โดย ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานพุทธศิลป์จากความศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่ได้รับมาจากประเทศศรีลังกา กล่าวคือในประเทศศรีลังกาตั้งแต่ช่วงปลายสมัยอนุราธปุระ และในสมัยโปลนนาลุวะ นั้น มีความนิยมในการสร้างวิหารเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปยืนที่มีความสูงเช่นนี้ด้วย ตัวอย่างที่กล่าวได้ว่าเป็นต้นแบบให้กับพระอัฏฐารสในสุโขทัย คือ พระอัฏฐารสในวิหารลังกาดิลก
ฐานเจดีย์ขนาดเล็ก 6 ฐาน กระจายทั่วไปบนลานวัด มีอยู่องค์หนึ่งมีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ อยู่ตรงเชิงบันไดด้านทิศตะวันออก
สะพานหิน ที่เป็นทางขึ้นอยู่ด้านทิศตะวันออก ทอดยาวจากถนนเชิงภูเขาจนถึงลานวัด ปูด้วยหิน ยาวประมาณ 300 เมตร นอกจากนี้ ทางด้านทิศเหนือมีทางขึ้นอ้อมเขา เข้าใจว่าน่าจะเป็นทางช้างขึ้น

น่าอัศจรรย์กับสถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างในสมัย กว่า700ปีที่แล้ว สามารถทำได้มากมายและมีความวิจิตรตระการตา

This Wat is a little bit away from the rest of the Sukhothai Historical Park and you need to pay an additional fee of 100 baht to watch it. The other remains of wats in this area are not really that impressive compared to all what you have probably seen before.
However, it’s isolation on top of a hill, in the middle of the woods does create a special atmosphere.

วัดสะพานหิน ตั้งอยู่บนยอดภูเขาเล็กๆ ทางทิศตะวันตกเมืองเก่าสุโขทัย ห่างจากโซนเมืองเก่าไม่ไกลมาก บนยอดภูเขาจะสังเกตเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ จากด้านล่างถนน
และสามารถเดินขึ้นไปเที่ยวชมบนวัดตามทางเดินหินที่เรียงทับกันเป็นชั้นๆ เป็นเหมือนสะพานหินขึ้นไปบนวัดด้านบน

จากวิวด้านบนมองลงมาจะดห็นวิว บรรยากาศที่สวยงามมากครับ. ควรค่าแก่การไปเที่ยวชมจริงๆ

Even if a little hard walking up to the top of the hill, it's a beautiful ruin with a nice view to the valley.