คฤหาสน์อุดมเดชวัฒน์
Address | Tha Rae, Mueang Sakon Nakhon District, Sakon Nakhon, Thailand |
Hours | 08:00-17:00 |
Website | www.tharaesakon.go.th/link marge/Banboran/banboran.html |
Categories | Tourist Attraction |
Rating | 4.2 18 reviews |
Similar companies nearby St Michael's Cathedral — Tha Rae, Mueang Sakon Nakhon District, Sakon Nakhon Wat Phraphut Saiyaram — Chiang Khruea, Mueang Sakon Nakhon District, Sakon Nakhon Kasetsart University Lotus and Waterlily Park — Chiang Khruea, Mueang Sakon Nakhon District, Sakon Nakhon Snake — Chiang Khruea, Mueang Sakon Nakhon District, Sakon Nakhon 47000 |
คฤหาสน์อุดมเดชวัฒน์ reviews
18ตั้งอยู่ในชุมชน ตำบลท่าแร่ ไปที่นี่นอกจากจะได้ถ่ายรูปชิคๆกับคฤหาสน์โบราณแล้วยังมีคาเฟ่น่ารักข้างๆอีกด้วย ขยับไปอีกนิดเป็นร้านสุกี้โบราณทุกอย่างคือ สวยละมุนไปหมด ไปตอนเย็นๆก่อนพระอาทิตย์ตกแสงดีมาก
ตึกมีความเป็นเอกลักษณ์และมีมุมถ่ายรูปเยอะมากค่ะ ไปช่วงธันวาคม ตกแต่งเป็นธีมคริสต์มาส บ้านเมืองน่ารักมาก แต่ละจุดไม่ห่างกันจอดรถไว้แล้วเดินชมเพลินๆดีค่ะ เป็นชุมชนที่น่ารักดี
แปลกตาแปลกใจ ที่มีบ้านสมัยเก่าสไตล์แบบฝรั่งเศสสร้างผสมผสานกับบ้านไม้ในหมู่บ้านที่เงียบสงบ ร้านอาหารอร่อยไว้ให้เที่ยวชมริมรสชาติอาหารพื้นบ้านแท้ๆๆ
A new bar and cafe has opened in the bottom floor of this 100-year-old building. It’s a great place to come and relax, enjoy the atmosphere and the air conditioning. A sign on the building says it was built in 1933 by Vietnamese Catholics who migrated to this region. The building was inspired by French colonial architecture. You’ll find several cabinets full of historic items dotted throughout the facility. There are more than a dozen seats and tables located indoors. And some tables outside under the balcony. They sell some small cakes, bakery items and coffee. They also sell alcohol. The service here is excellent. A great spot to relax. The Catholic cathedral is located one block away.
ร้านแนวสมัยใหม่ ปรับใช้อาคารประวัติศาสตร์เก่าร่วม 100 ปีมาเป็นร้านคาเฟ่ ที่เกํไกํ เหมาะกะการมาเช็คอินกับสถานที่ ของใช้เก่าที่เก็บรักษาไว้อย่างดี
คฤหาสน์อุดมเดชวัฒน์
คฤหาสน์แห่งนี้สร้างโดยช่างเวียดนามที่อพยพมาอยู่บ้านท่าแร่เมื่อปี พ. ศ. 2475 โดยเจ้าของคฤหาสน์คือ นายคำสิงห์ อุดมเดช ลักษณะจะเป็นอาคาร 2 ชั้น ในอดีต ชั้น 1 เปิดเป็นร้านค้า ชั้น 2 เป็นที่พักอาศัย สร้างโดยใช้ปูน ทราย อิฐ ผสมกันยึดติดกับเสาไม้ได้อย่างลงตัว เนื่องด้วยใช้เทคนิคโบราณในการก่อสร้างนี่เองทำให้ผนังและหลังคามีความแข็งแรง ลักษณะเด่นของคฤหาสน์แห่งนี้คือ ซุ้มวงโค้งด้านหน้าอาคาร เพราะมีการใช้เสาจริงประดับแทนเสาหลอกและมีลวดลายปูนปั้นประแจจีนแสดงถึงความเป็นสิริมงคล
คฤหาสน์อุดมเดชวัฒน์ อยู่ในการดูแลของผู้รับมรดก นั่นคือ นางเทเรซารสศรี สกนธวัฒน์ เนื่องจากไม่มีผู้อยู่อาศัยจึงทำให้คฤหาสน์แห่งนี้ดูทรุดโทรมลงไปบ้าง แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยไปแล้วกว่า 90 ปี
ปัจจุบันมีการปรับปรุงส่วนของคฤหาสน์เป็นคาเฟ่บรรยากาศดี มีมุมถ่ายรูป สามารถมาดื่มด่ำกาแฟ เเละศึกษาประวัติศาสตร์ได้ที่นี่
บ้านโบราณหลังนี้ มีอายุประมาณ 90-100 ปี เป็นบ้านของ นายหนู ศรีวรกุล (เฮียน เรียนดึงดึง) และนางหนูนา อุปพงษ์ ซึ่งเป็นบุตรของ พระยาประจันตประเทศธานี เจ้าเมืองสกลนครเวลานั้น เดิมสร้างเป็นที่อยู่อาศัย ต่อมาในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางราชการสั่งปิดโบสถ์ ไม่ให้ใช้ทำพิธีใดๆ ในทางศาสนา ชาวคริสต์จึงต้องหาสถานที่แห่งใหม่ เพื่อใช้ทำพิธีต่างๆ เช่น พิธีบูชามิสซา พิธีรับศีลสมรส และเนื่องจากบุตรหลานของเจ้าของบ้านหลังนี้ เป็นพระสงฆ์ในศาสนาคริสต์ จึงอนุญาตให้ใช้บ้านหลังนี้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และชาวคริสต์ รุ่นเก่าหลายคนก็เคยใช้บ้านหลังนี้จัดพิธีรับศีลแต่งงาน น่าเสียดายที่ต่อมาบ้านถูกไฟไหม้ ชำรุดทรุดโทรม ไม่มีการบูรณะซ่อมแซม มีต้นโพธิ์ขึ้นรกรุงรัง จนกลายเป็นบ้านร้างอย่างที่เห็นในปัจจุบัน คฤหาสน์ อุดมเดชวัฒน์ อาคารโบราณหลังนี้ ตั้งอยู่เลขที่ 268 หมู่ที่ 6 ถนนราษฎร์เจริญ บ้านท่าแร่ เป็นของนายคำสิงห์ อุดมเดช หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ องเด สร้างขึ้นตามรูปแบบสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส (French Colonial Architecture Style) ในปี ค. ศ. 1933 (พ. ศ. 2476) โดยช่างชาวเวียดนาม ที่อพยพมาอยู่ในจังหวัดนครพนมและบ้านท่าแร่ เป็นอาคาร 2 ชั้น พื้นที่ปลูกอาคารแต่เดิมเป็นดินโคลนปลักควาย จึงมีการถมให้แน่น ชั้นล่างทำเป็นร้านค้า จำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด สิ่งจำเป็นในการอุปโภคบริโภค รวมทั้งตาชั่งจีน ส่วนชั้นบนเป็นที่พักอาศัย มี 2 ห้องนอน อยู่ด้านซ้ายและด้านขวา มีแท่นพระที่สวยงามตั้งอยู่ตรงกลางห้องโถง สำหรับตั้งกางเขน พระรูปพระเยซู รูปพระแม่มารีย์และนักบุญต่างๆ ไว้ให้สมาชิกในครอบครัวได้เคารพบูชาและสวดภาวนา พร้อมที่จะใช้ประกอบพิธีทางศาสนา สภาพของอาคารในปัจจุบัน พื้นชั้นล่างทรุด ขาดการบูรณะซ่อมแซม เพราะไม่มีผู้อาศัยอยู่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี โครงสร้างส่วนสำคัญของอาคารหลังนี้ ซึ่งช่างได้ใช้เทคนิคแบบโบราณในการก่อสร้าง โดยใช้ปูน ทราย อิฐ ผสมผสานยึดติดกันกับเสาไม้ได้อย่างลงตัว ทำให้ผนังและหลังคามีความมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัย ถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นสวยงามล้ำค่าแห่งหนึ่งในจังหวัดสกลนคร
คฤหาสน์อุดมเดชวัฒน์ เป็นสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส ช่างเวียดนามเป็นคนสร้างพศ 2475 สมบัติตกมาอยู่ทายาทปัจจุบัน ด้านหน้าจะมีป้ายบอก บ้านโบราณ 100 ปี นักท่องเที่ยวอย่าลืมเดินเข้ามาอีกหน่อย ไม่แน่ใจด้านหน้า ด้านหลัง จะมีมุมถ่ายรูปที่สวยมาก เป็นบ้านโบราณที่คงความมีเสน่ห์ ต้องมาถ่ายรูป กันนะครับ คนท่าแร่ ใจดีมาก #เกษียณสุข
พนักงานน่ารัก
เราเปิดห้องชุดแล้วเพิ่มเตียงเสริมเพราะเด็กเยอะ
ราคาไม่แพง แอร์เย็น พนักงานน่ารักค่ะ
บ้านท่าแร่ บ้านฝรั่งเศษสมัยเก่า ที่อนุรักษ์ไว้ ชุมชนเข้มแข็ง น่ามาเยี่ยมชมครับ กรรมการดูแลดีมากให้ข้อมูลดีๆให้ฟังครับ
เทศบาลหรือคนที่เกี่ยวข้องน่าจะปรับปรุงให้มันดูมีค่ามากกว่านี้ ให้เป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวมาแวะดู และได้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์กลับไปด้วย
ได้เห็นบ้านแบบโบราณของคนสมัยก่อน ได้เห็นโบสถ์ และ พอดี ได้ยินเสียงบาทหลวงเทศน์ แวะกินขนมหวาน ดีค่ะ
I only have a very limited time so I could only drive along numbers of historical buildings in the town, they are great spots for picture. When you exit the town you can drive along Nong Han Lake and enjoy atmosphere there.
Closed to public: I was fortunate to have the owner give me a private tour. Historical building built in the early 20th century (1935) by son of migrant Viet Namese in the european style. Used for commercial purposes, the upper floor is the residential area. There is a beautiful wooden staircase leading upstairs. Numerous French doors with original brass are a delight to the eyes. A very beautiful historical building near St-Michael's cathedral.
ตึกเก่าท่ามกลางเมืองที่แผ่ขยายน่าเสียดายตรงขาดข้อมูลเรื่องราวบอกเล่าให้กับรักท่องเที่ยวที่ไปที่นั่นต้องsearch internetเอง
Few nice old-town buildings just 30-40 min away from Skon Nakorn airport and not far from each other. Better ask the local for direction to get there instead of relying on GPS.
There're some coffee shops and restaurants nearby if you wish to take a break while visiting the town.
มีอาคารเก่าอยู่ 2 อาคารและมีอาคารที่พังทลายแล้ว 1 จุด ส่วนตัวคิดว่าไม่ค่อยมีอะไรเที่ยวนัก แต่หากจะไปถ่ายรูปเล่น เป็นทางผ่าน หรือไปเที่ยวบริเวณนั้นด้วยก็แวะได้ค่ะ ข้างๆอาคารและบริเวณรอบๆมีร้านคาเฟ่และร้านอาหารด้วย นั่งชิลๆบริเวณคาเฟ่ข้างๆอาคารก็ดีค่ะ
บ้านโบราณหลังนี้ สร้างด้วยปูน ที่ในเวลานั้นจะหาช่างฝีมือมาสร้างแบบสถาปัตย์อย่างนี้ไม่ได้ง่ายๆ มีอายุประมาณ 90-100 ปี เป็นบ้านของ นายหนู ศรีวรกุล (เฮียน เรียนดึงดึง) และนางหนูนา อุปพงษ์ ซึ่งเป็นบุตรของ พระยาประจันตประเทศธานี เจ้าเมืองสกลนครเวลานั้น ปัจจุบันอยู่ในตำบลท่าแร่ ชุมชนที่มีผู้อาศัยนับถือศาสนาคริสต์เป็นจำนวนมาก