Wat Sing Khu Yang

วัดสงห์คูยาง สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ. ศ. 2365 ชาวบ้านเรียก วัดบ้านโคกสำโรง มีเรื่องเล่าว่า วัดสิงห์คูยางได้รกร้าง กลายเป็นป่ารกร้าง ด้านหลังของวัดมีสระน้ำ 4 สระ คือ สระบัว สระยาง มีต้นยางใหญ่อยู่ที่คันคูสระ 2 ต้น และสระหน้าโบสถ์ ต่อมามีภิกษุเดินธุดงค์มาปักกรดที่บริเวณนี้ ท่านมีอาคมทางไสยศาสตร์แก่กล้า เมื่อชาวบ้านเกิดเจ็บป่วย ท่านได้ทำน้ำมนต์แจกชาวบ้านให้นำไปอาบและดื่มกิน จนหาย อาการป่วยก็บรรเทา เมื่อเจ็บป่วยกันทั้งบ้านเพราะโรคลุกรามระบาด รักษาไม่ทัน ท่านจึงทำน้ำมนต์ลงในสระกลางวัด แล้วชาวบ้านตักน้ำนั้นไปอาบ ดื่มกินก็หายจากอาการป่วยไข้หมดสิ้น ทำให้ชาวบ้านเลื่อมใส ท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดร้างนี้ และได้ตั้งวัดขึ้นเรียกว่า วัดบ้านสามโรง ต่อมา พ. ศ. 2381 ผู้มีจิตศรัทธานามว่า "สิงห์" ได้บูรณะวัดครั้งใหญ่ และประกอบกับสระลูกหนึ่งในวัดที่มีต้นยางใหญ่อยู่ที่คันคู จึงเปลี่ยนชื่อวัดมาเป็น "วัดสิงห์คูยาง"วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในราว พ. ศ. 2400

วัดสิงค์คูยาง เป็นวัดที่อยู่คู่กับอำเภอโคกสำโรงมาอย่างยาวนาน มีหลวงพ่อตากแดดและหลวงพ่อหิน เป็นที่สักการะบูชาของคนในท้องถิ่น

ร้าน​ริม​ระเบียง​เตี๋ยวเรือ​หมู​เปิด​ขาย​ค่ะ​ยินดี​ต้อนรับ​นะ​คะ​เมนู​ยอดนิยม
เล้งรสแซ็บแซบ

วัดนี้จะเปิดถึง2ทุ่ม เพราะตอนค่ำๆจะเปิดไฟประดับสวยงามตรงจุดถ่ายรูปที่ให้อาหารปลา ตอนกลางวันก็สวยเช่นกันมุมถ่ายรูปน่ารักๆ
พาเด็กให้อาหารปลาสนุกสนาน ร่มรื่นย์เย็นสบาย และที่ห้ามพลาดอย่าลืมไปไหว้หลวงพ่อตากแดด กับหลวงพ่อหินด้วยนะคะ

ร่มรื่นมาก ต้นไม้เยอะ ดอกไม้เยอะ ชอบไปหยอดตู้ให้อาหารปลา ยืนฟังเสียงจนพอใจก็ไปนอนที่ให้อาหารปลา เพราะมีลมพัดเย็นๆ

ร่มรื่นมากค่ะวัด ส่วนใหญ่จะเป็นลานโล่งแจ้งเพราะมีพระชื่อว่าองค์หลวงพ่อตากแดด ซึ่งตั้งอยู่กลางแดด ให้กราบไหว้บูชา

การเดินทาง: จากตัวเมืองลพบุรี ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน (ลพบุรี–โคกสำโรง) ประมาณ 35 กิโลเมตร พบวงเวียนอำเภอโคกสำโรง ขับตรงไปทางอำเภอชัยบาดาล ทางหลวงหมายเลข 205 เจอไฟแดงเลี้ยวซ้าย ไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร วัดสิงห์คูยางอยู่ด้ายซ้ายมือทุ่งดอกทิวลิปลพบุรี (ดอกผักตบชวา) อยู่บริเวณภายในวัดสิงห์คูยาง

วัดมีความสวยงามและกว้างขวาง บริเวณวัดติดคูน้ำ ให้บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย มีจุดบริการให้ถ่ายรูป ให้อาหารปลา ทำบุญ ไหว้พระ