Ban Chao Wichayen

เป็นมรดกวังเก่าราชฑูตวิชัยเยนต์สมัยพระนารายเป็นบ้างวังรับราชฑูตรับรองพื้นที่กว้างถ้าย้อนไปน่าจะสวยน่าดู

For history greek. The history knowledge needed for this place is deeper than Narai's palace.

สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์สวยงามค่าเข้าชม10บาทคนน้อยดีที่จอดรถต้งหาเองตามข้างถนน มีแสกนคิวอาร์โค้ดให้ได้ดูคำอธิบาย

ขอเรียนเชิญทุกท่านมาเที่ยวบ้านเจ้าพระยาวิชาเยนทร์กันค่ะ ค่าเข้าชม คนไทย10บ. แนะนำมาเที่ยวช่วงเช้าค่ะ บรรยากาศดี แต่หาที่จอดรถได้ ด้านข้างนะคะ

บ้านวิชาเยนทร์
หรือ บ้านหลวงรับราชทูต ตั้งอยู่ทางเหนือของวังนารายณ์ราชนิเวศน์ และวัดเสาธงทอง ทางตะวันตกใกล้กับวัดปืน ที่มีกรุพระหูยาน และทางตะวันออกใกล้กับเทวสถานปรางค์แขก
บ้านหลวงรับราชทูตแบ่งได้ 3 ส่วน ด้านตะวันออกเป็นบ้านพักของคณะทูตชาวฝรั่งเศส ส่วนด้านตะวันตกเป็นบ้านพักของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ขุนนางชาวกรีก และท้าวทองกีบม้า ภรรยา ส่วนกลางเป็นที่ตั้งของโบสถ์ของคริสต์ศาสนาที่สถาปัตยกรรมเป็นแบบ Renaissence ผสมสถาปัตยกรรมไทย แห่งแรกของไทย และของโลก

มาวันธรรมดา คนไม่เยอะ มีการดูแลพื้นที่ได้สะอาดมาก พื้นที่โดยรวมจะเป็นโบราณสถานที่ยังดูสมบูรณ์อยู่มาก เข้าไปแล้วดูมีมนต์ขลังมากค่ะ พื้นที่สวยทุกจุด ถ่ายรูปได้สวยทุกที่เลย แสงสวยมากก ค่าเข้าชมก็ถูกมากคนละ 10 บาท ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปเข้าฟรีค่ะ ถ้ามาลพบุรีต้องมานะคะ

ถึงด้านนอกจะร้อน​ แต่ด้านในกลับเย็น​สบาย​ ศึกษา​ประวัติศาสตร์​ก่อนมาเที่ยวจะสนุก​กว่ามาแบบไม่รู้​อะไร​เลย​

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมาก เป็นโบสถ์คริสต์แห่งแรกของประเทศไทยก็ว่าได้ มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีเกี่ยวกับเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ หรือฟอร์คอน และท้าวทองกีบม้า นางมารีเดอกีมาร์

เจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่อัธยาศัยดี บริเวณสถานที่ไม่สกปรกรกรุงรัง เหมาะสำหรับคนที่มาดูเป็นความรู้ด้านประะติศาสตร์วัฒนธรรม หรือตามรอยละคร แต่นกพิราบมาทำรังเยอะไปหน่อย อยู่กันเป็นฝูงๆ ขี้ลงมาเปอะเปื้อนตัวได้

ก็ดีนะใหญ่โตดี แต่ก่อนคงเป็นสถานที่ ที่สวยงามมาก แต่การมาเที่ยวที่แบบนี้จริงๆสำคัญมากว่า จำเป็นต้องมีวิทยากรหรือผู้ให้ความรู้นะ ไม่งั้นดูแล้วก็จะงงๆ มองไปตรงไหนก็ซากปรักหักพัง ถ่ายรูป2-3ที กลับ

This very interesting historical place dated back to king Narai the Great of Ayutthaya's period, about 400 years,
and is one of the ancient capitals of Thailand. Chao Praya Wichayen (Constantine Phaulcon), owner of the place was very close to the king, was a foreigner who rose to the top civil-service rank before a coup d'etat occurred then was assassinated.

An official name of the place is Ambassador Residence since it had hosted the French ambassadors to Siam, amongst which was Monsignor de La Loubère. Things to see here includes the ambassadors' residence, a private chapel and an ancient Muslim's bathhouse. In all, a splendid place.

The place is only about 1 km.from Lopburi train station. Just walk along and be a little careful to keep your belongings from those naughty monkeys on the way. The trains tickets from Bangkok is very cheap and there are several trips/day. Walk further to the left from this place for about 800 meters you'll reach king Narai's palace. There's good museam inside and a coffee shop at the front gate offers good coffee hot and cold.

บ้านวิชาเยนทร์ หรือ บ้านหลวงรับราชทูต ตั้งอยู่ทางเหนือของวังนารายณ์ราชนิเวศน์ และวัดเสาธงทอง ทางตะวันตกใกล้กับวัดปืน และทางตะวันออกใกล้กับเทวสถานปรางค์แขก สร้างขึ้นราวปี พ. ศ. 2228 คุณผู้รักประวัติศาสตร์ ต้องไปชม

แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ทีมีความน่าสนใจ สวยงาม ทำให้จินตนาการถึงอดีตอันเรืองรองในยุคแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ได้เป็นอย่างดี

เป็นสถานทีสำคัญทางประวัติศาสตร์ทีชาวลพบุรี
ควรใส่ใจเรียนรู้เพราะเป็นสมัยแผ่นดินทองสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

คนไทย 10 บาท เหมาเข้าหลายที่ 30 บาท ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเข้าฟรี เดินไม่เกิน 30 นาที ไม่มีประวัติอะไรให้อ่านว่าจุดนี้คือห้องอะไร จอดรถริมถนนที่จอดน้อย

สำหรับคนที่ชอบจริงๆครับ ส่วนตัวแล้วชอบครับ ครั้งนึงในประวัติศาสต์ในบริเวณนี้เคยเกิดอะไรขึ้นบ้าง แนะนำครับ แนะนำให้เที่ยวทุกที่ในตัวลพบุรีเลยครับ

เป็นสถานที่สำหรับใช้เป็นที่พำนักของราชทูตเมื่อครามาเยือนประเทศไทย​ ต่อมาภายหลังจึงให้พระยาวิชาเยนทร์เป็นผู้ดูแล​

บ้านวิชาเยนทร์
บ้านวิชาเยนทร์ หรือ บ้านหลวงรับราชทูต ตั้งอยู่ทางเหนือของวังนารายณ์ราชนิเวศน์ และวัดเสาธงทอง ทางตะวันตกใกล้กับวัดปืน และทางตะวันออกใกล้กับเทวสถานปรางค์แขก สร้างขึ้นราวปี พ. ศ. 2228 เพื่อใช้รับรองราชทูตชาวตะวันตกที่มาเฝ้าฯ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ต่อมาสมเด็จพระนารายณ์ได้พระราชทานที่พักอาศัยนี้ให้แก่เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ สมุหนายกชาวตะวันตกในราชสำนักสยาม ณ เวลานั้น
บ้านหลวงรับราชทูตแบ่งได้ 3 ส่วน ด้านตะวันออกเป็นบ้านพักของคณะทูตชาวฝรั่งเศส ส่วนด้านตะวันตกเป็นบ้านพักของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ขุนนางชาวกรีก และท้าวทองกีบม้า ภรรยา ส่วนกลางเป็นที่ตั้งของโบสถ์ของคริสต์ศาสนา ที่สถาปัตยกรรมเป็นแบบเรอเนสซองส์ ผสมสถาปัตยกรรมไทย แห่งแรกของไทย และของโลก (ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia)

It's unique is the ruined house of European high ranging who served the Royal Court more than 300 years ago. There are some trace of European house left to noticed.

บ้านหลวงรับราชฑูตในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ เป็นสถานที่จัดงานรำลึกสำคัญและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์