Wat Phrathat Thung Tum

เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดนึงของล้านนาที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยเคยมาบูรณะไว้ซี่งตอนนี้ได้ทรุดโทรมลงตามกาลเวลา ทางหลายหน่วยงานกำลังช่วยกีนบูรณะ
ขแเชิญผู้มีจิตศรัทธในพระพุธศาสนามาร่วมกันทำบุญบูรณะก่อสร้างด้วยกันครับ

ตามประวัติศาสตร์วัดพระธาตุทุ่งตูมเป็นวัดเก่าแก่ ที่มีตำนานเชื่อมโยงกับเมืองโบราณเวียงท่ากาน ที่กล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาโปรดเวนัยสัตว์ จนมาถึงป่าอัมพวนาราม (ป่ามะม่วง) ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวลั้วะ แล้วได้ประทานเส้นพระเกศา 2 เส้น ให้แก่ชาวลั้วะสองพี่น้อง ลั้วะผู้พี่ได้นำพระเกศาไปประดิษฐานไว้ที่เมืองเจราภูมิ หรือเมืองลำพูนในปัจจุบัน ส่วนลั้วะผู้น้องได้นำพระเกศาไปประดิษฐานที่อัมพวนาราม หรือพระธาตุทุ่งตูม ในวัดพระธาตุทุ่งตูม ต่อมาในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ได้ทรงสร้างเจดีย์ 84,000 แห่ง และได้ทรงมาสร้างที่วัดพระธาตุทุ่งตูม 1 แห่ง มาถึงในสมัยพระนางจามเทวี ได้ทรงสุบินนิมิตถึงช้างผู้ก่ำงาเขียว ซึ่งเป็นช้างคู่บารมีของพระองค์ได้เดินไปยังป่าทึบและได้พบสถูปเจดีย์สร้างกลางป่ามะม่วง จากนั้นได้เดินประทักษิณ 3 รอบและก้มทำการทรงคันศรอธิษฐานและเสี่ยงทายด้วยการทรงคันศร พุ่งมายังพระบรมธาตุเจดีย์นี้ จึงทรงสร้างพระสถูปธาตุครอบองค์เดิมเอาไว้ พร้อมทั้งสถาปนาเป็นวัดหลวง ต่อมาก็ได้มีการทำนุบำรุงมาตลอด โดยได้ปรากฏบันทึกเป็นหลักฐานไว้ชัดเจนในสมัยพระราชครูอุตมะคุณณธัชช ได้มาสร้างเจดีย์ครอบองค์เดิมไว้ในปี พ. ศ. 2125 พร้อมทั้งได้ย้ายวิหาร สร้างหันหน้าไปทางทิศเหนือในปี พ. ศ. 2129 ในสมัยพระเจ้าอินทวโรรสสุริยวงค์ เจ้าผู้ครองเมืองนครเชียงใหม่องค์ที่ 3 ได้ทำการบูรณะวัดพระธาตุทุ่งตูม ปี พ. ศ. 2446 ต่อมาครูบาศรีวิชัย หลังจากพ้นข้อหาอธิกรณ์แล้ว ได้มาทำการบูรณะวัดพระธาตุทุ่งตูม โดยได้ก่อพระเจดีย์ครอบองค์เดิมไว้ภายใน แล้วบูรณะวิหาร ก่อสร้างศาลาบาตร ครอบพระวิหารและพระธาตุ และได้ทำการฉลองเป็นงานใหญ่ ต่อมาในปี พ. ศ. 2493 พระครูบุญศรีสึลวิสุทโธ ก็ได้ทำการบูรณะวิหาร โดยคงสภาพเดิมไว้

Cr. Chiangmaiculture

เป็นวัดที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้มาทำนุบำรุงสร้าง เจดีย์ วิหาร และศาลาลาย