Wat Rakhang Kositaram Woramahawihan

ให้มาช่วงเช้า แดดก็จะไม่ร้อนมา
มีอาคารจอดรถของวัด (เสียเงิน)
มี -พระศรีอริยเมตไตรย -สมเด็จโต -หลวงพ่อขาว และ -เจ้าอาวาสองค์ก่อน ให้กราบขอพร และมีระฆังอธิฐานให้ตี ช่วงที่ไป ทางวัดได้ เปิดหอพระไตรปิฎกโบราณให้เข้าชม หอพระไตรปิฎกนี้อยู่กลางสระน้ำภายในวัด แต่ทางต้องการปรับภูมิทัศน์พื้นที่เพื่อสร้างวิหารเพิ่มเติม จึงทำการย้ายหอพระไตรปิฎก มาจัดสร้างในพื้นที่ปัจจุบัน หากใครมาวัด แนะนำให้เข้าชม (หากเขาเปิด) เพราาะเป็นเรือนไม้สักโบราณ ไม้พื้นแผ่นใหญ่ ที่หาชมได้ยากแล้วในปัจจุบัน

ตั้งใจมาบ่อยๆเท่าทีี่โอกาสอำนวย ปี2566มา2ครั้งคะ ล่าสุดเมื่อคืน17ธันวาคม2566ได้มาสวดมนต์ นั่งสมาธิ ชอบบรรยากาศในโบสถ์ กับ ลานหลวงพ่อโต ริมแม่น้ำเจ้าพระยามากๆ คะ สาธุขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้มาทำบุญไหว้พระด้วยคะ

พิธีเปิดบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ. วัดระฆังโฆษิตาราม พิธีใหญ่ เชิญพระเถระชั้นผู้ใหญ่มากมาย รวมทั้งฆวาสชื่อดัง อาจารย์โอเล่ มาร่วมในพิธี

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)  หรือนามที่นิยมเรียก "สมเด็จโต" หรือ "หลวงปู่โต" ในวันที่ 22 มิ. ย. 2566 ท่านครบรอบ 151 ปีแห่งมรณกาล

รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดปรานพระมหาโตเป็นอย่างยิ่ง ในปี พ. ศ. 2395 พระองค์จึงได้พระราชทานตั้งสมณศักดิ์พระมหาโตเป็นครั้งแรก เป็นพระราชาคณะที่ "พระธรรมกิติ" และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ขณะนั้นท่านอายุ 65 ปี โดยปกติแล้วพระมหาโตมักพยายามหลีกเลี่ยงการรับพระราชทานสมณศักดิ์ แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ท่านต้องยอมรับพระราชทานสมณศักดิ์ในที่สุด อีก 2 ปีต่อมา (พ. ศ. 2397) ท่านจึงได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ที่ "พระเทพกระวี" หลังจากนั้นอีก 10 ปี (พ. ศ. 2407) จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นสมเด็จพระราชาคณะชั้นหิรัญบัฏ ในราชทินนามที่ "สมเด็จพระพุฒาจารย์" มีราชทินนามตามจารึกในหิรัญบัฏว่า
สมเด็จพระพุฒาจารย์ อเนกสถานปรีชา วิสุทธศีลจรรยาสมบัติ นิพัทธุตคุณ สิริสุนทรพรตจาริก อรัญญิกคณิศร สมณนิกรมหาปรินายก ตรีปิฎกโกศล วิมลศีลขันธ์ สถิต ณ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร พระอารามหลวงฯ
สมณศักดิ์ดังกล่าวนี้นับเป็นสมณศักดิ์ชั้นสูงสุดและเป็นชั้นสุดท้ายที่ท่านได้รับตราบจนกระทั่งถึงวันมรณภาพ คนทั่วไปนิยมเรียกท่านว่า "สมเด็จโต" หรือ "สมเด็จวัดระฆัง" ส่วนคนในยุคร่วมสมัยกับท่านเรียกท่านว่า "ขรัวโต"

A beautiful shrine, you don't need any entry ticket. The pathway to the place is gorgeous

วัดระฆัง
ช่วงหลังๆใช้บริการที่จอดรถ
ตอนมา รพ ศิริราช
อยู่เป็นประจำ

เสร็จก็ไหว้พระได้
มีสมเด็จอยู่ริมน้ำ
เข้าออกสะดวก
อาคารจอดรถมีร่ม
วันธรรมดาคนจะน้อยหน่อย

วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดบางหว้าใหญ่ แล้วได้มาเปลี่ยนชื่อเปนวัดระฆังในสมัยหลัง เนื่องจากมีการขุดข้นเจอระฆังใบหนึ่งที่นี้ ซึ่งเมื่อดีแล้วมีเสียงดังกังวาน ไพเราะมาก รัชก่ลที่ 1 จึงโปรดให้เอาไปไว้ที่หอระฆังภายในพระบรมมหาราชวัง และทรงโปรดให้หล่อระฆังใบใหม่กลับมาแทนที่ถึง 5 ใบด้วยกันจึงเปนที่มาของชื่อวัดในปัจจุบัน

วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2566 แวะมาทำบุญไหว้พระ มีอาคารให้จอดรถด้วย เสีย 20 บาท สถานที่กว้างขวาง อต่จะแลกแบงค์ย่อย แม่ชีบอกไม่มี เลยต้องใช้ยิงคิวอาร์โค้ดเพื่อทำบุญ ค่าน้ำ55 ค่าไฟ55 น้ำมันตะเกียง55 ไปตอนเที่ยงแดดค่อนข้างร้อน

It’s one of the most sacred and historic temples in Thailand where buddhists usually come visit. All I wanna say is basically I’m not so religious person, but as soon as I step in here, I’m totally in peace and overwhelmed with positive energy in an inexplicable way.

วัดระฆัง มีพระอุโบสถที่สวยงาม เป็นทรงแบบรัชกาลที่ 1 ประดิษฐาน หลวงพ่อยิ้มรับฟ้า เป็นพระประธานค่ะ โดยเป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสำริด ปางสมาธิ

หากมาวันหยุดเสาร์อาทติย์ สถานที่จอดรถ หายากพอสมควร ถึงจะมีอาคารที่จอดรถของทางวัดก็ยังจอดซ้อนคัน ถ้าจอดข้างถนน ระวังเรื่องถูกล๊อคล้อได้ ต้องขับวนหาที่จอด ของเอกชน พอจะมีให้จอด ราคาด็จะแพงหน้อย

สถานที่วัด มีให้ถายรูปสวยๆๆ หากมาช่วงเย็นก็จะได้บรรยากาศอีกแบบ

เป็นวัดที่มีความสำคัญ และมีชื่อเสียง อยู่ใกล้สถานที่สำคัญของ กทม. ไปมาสะดวกทั้งทางเรือทางรถยนต์ มีอาคารจอดรถสะดวก

มาหลายครั้งแล้วครับมานมัสการสมเด็จพุฒาจารย์โตพรหมรังสีและร่วมทำบุญเช่าวัตถุมงคลพิมพ์สมเด็จวัดระฆัง

วัดอยู่ใกล้ริมแม่น้ำและใกล้ถนนใหญ่สะดวกเดินได้ทั้งทางน้ำทั้งบกครับ ในวัดมีเจ้าหน้าที่ดูแลดีครับ

เป็นวัดเก่าแก่ มีความสวยงาม และมีชื่อเสียง เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว สามารถเดินทางมาทางเรือได้

วัดงดงามมีมาแต่โบราณ กราบสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี งามตระหง่านริมน้ำเจ้าพระยา บ่อน้ำพระพุทธมนต์ดั้งเดิมเสริมมงคล สุข สวัสดิ์ มีแด่ทุกท่านที่บูชา

ตั้งใจมาขอพรให้แฟนประสบความสำเร็จ​ในการทำงานเลื่อนระดับ​ และเช่าพระพุทธรูป​ไปฝากเพื่อนที่เปิดร้านใหม่​

้กราบพระขอพรชมวิวริมน้ำสายทำบุญต้องมาครับ. มาครั้งนี้พื้นที่พัฒนาไปเยอะเลยดูสะอาดตาขึ้น สวยขึ้น

Wat Rakhang Kositaram Woramahawihan
Originally, it was called Wat Bang Wa Yai and was an ancient temple when Phra Nakhon Si Auuthaya was the capital together with Wat Amarin Tharam. King Taksin the Great restored Wat Bang Wa Yai as well as elevated it to be a royal temple. Later in the Rattanakosin Era, King Rama I the Great restored the temple again and during excavations found a bell that had a melodious sound and bestowed a new name after the restoration was completed as
"Wat Rakhang Kositaram". The important place of the temple is the ordination hall that has been designed in the art style of the reign of king Rama 1 the Great, especially the gable with the figure of vishnu on the garuda. The interior of the ordination hall has a principal Buddha Image that is very attractive.

วันอาสาฬบูชา ปี 2566 ไปกราบสักการะหลวงพ่อยิ้ม หลวงปู่โต ทำบุญไหว้พระ เติมน้ำมันตะเกียง
วัดสวยงาม ร่มเย็น คนไปทำบุญกันมากอยากให้ทุกๆวัดมี คนมาร่วมทำบุญกันเยอะๆ ตลอดไป สาธุ สาธุ สาธุ

สถานร่มรื่น มีสวดมนต์ ทำวัตรเช้า เย็น และฟังเทศน์ในวันพระ มีอาคารจอดรถ ใกล้ตลาดวังหลัง เดินทางสะดวก ข้ามเรือ หรือนั่งรถต่อได้ค่ะ