Wat Nang Nong Worawihan

เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากอีกวัดหนึ่ง สามารถขอโชคลาภการงานหน้าที่ให้เจริญก้าวหน้าดีมาก

เงียบสงบ ร่มรื่น เย็นสบายทั้งวัน ที่สำคัญด้านในสุดของวัดติดริมคลอง มีปลาสวาย (เอาขนมปังไปเลี้ยงปลา)

Long but great history of how the temple was established. The Buddha statue inside the main chapel is very beautiful, lot of history and story along the wall of water color paintings. Great place to visit for both Thais and foreign visitors.

สักการะพระพุทธมหาจักรพรรดิ พระประธานทรงเครื่องแบบกษัตริย์ที่มีความงดงามมากที่ในกรุงเทพมหานคร

วัดนางนองวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา ประมาณสมัยพระเจ้าเสือ (ขุนหลวงสรศักดิ์) ราวปี (พ. ศ. 2245–2252) รัชกาลที่ 3 ได้โปรดให้ปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งพระอารามเมื่อ พ. ศ. 2375 ปรากฏงานศิลปกรรมแบบ พระราชนิยมในพระองค์ ที่พระอุโบสถและพระวิหารคู่ แต่เดิมที่ดินแห่งนี้เป็นนิวาสถานของสมเด็จพระศรีสุลาลัย หรือเจ้าจอมมารดาเรียม พระราชชนนีของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งต่อมาตระกูลของสมเด็จพระศรีสุลาลัย ย้ายข้ามฟากไปอยู่บริเวณวัดหนัง รัชกาลที่ 3 ทรงบูรณะวัดนางนอง เป็นศิลปกรรมแบบผสมศิลปะจีนและไทย การบูรณปฏิสังขรณ์ใช้เวลาประมาณ10ปีจึงแล้วเสร็จ และได้สถาปนาเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ประกอบพิธีผูกพัทธสีมาพระอุโบสถเมื่อ พ. ศ. 2384

พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หน้าบันประดับด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบลายดอกไม้ร่วง บานประตูเป็นภาพเขียนประดับมุกลายมงคลของจีน ภายในพระอุโบสถมีงานจิตรกรรมที่สวยสดงดงามมาก ที่ผนังพระอุโบสถส่วนบนเหนือกรอบหน้าต่างทุกด้าน เขียนเรื่องราวในพุทธประวัติตอนชมพูบดีสูตร ที่ผนังหลังพระประธานเขียนรูปพระจักรพรรรดิราช ส่วนที่บานแผละของประตูหน้าต่างเป็นภาพเครื่องราชูปโภค เครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องยศ เครื่องสิริมงคล เครื่องศัตราวุธ และเครื่องดนตรี อันเป็นเครื่องประกอบพระอิสริยยศของพระมหากษัตริย์ รวมทั้งรัตนะทั้งเจ็ดแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ ตามคติพระพุทธศาสนาเถรวาท อันประกอบด้วยช้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว นางแก้ว จักรแก้ว และดวงแก้ว ซึ่งเป็นสมบัติอันประเสริฐที่จะเกิดขึ้นแก่พระเจ้าจักรพรรดิเท่านั้น และที่ผนังระหว่างช่องหน้าต่างเป็นภาพเรื่องสามก๊ก และระหว่างบานประตูหน้าพระอุโสถเป็นภาพฮก ลก ซิ่ว อาจกล่าวได้ว่า รัชกาลที่ 3 ทรงมีพระราชประสงค์ในการสถาปนาอุโบสถวัดนางนอง ให้เป็นพระอุโบสถที่แสดงถึงคติแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ ด้วยกลวิธีการออกแบบเรื่องราวภายในพระอุโบสถ ผูกเล่าเรื่องราวคติพระจักรพรรดิราช สัมพันธ์กันระหว่างองค์พระพุทธรูปประธาน และงานประดับภายในพระอุโบสถ โดยภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องชมพูบดีสูตร ซึ่งเป็นเรื่องราวของพระเจ้าชมพูบดี กษัตริย์ที่มีบุญญาธิการมาก ไม่มีกษัตริย์พระนครใดใกล้เคียงจะหาญเข้ามาต่อต้านได้ รวมทั้งการประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ ที่รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นด้วย

พระประธานในอุโบสถ มีนามว่า "พระพุทธมหาจักรพรรดิ" เป็นพระพุทธรูปสำริดทรงเครื่องอย่างกษัตริย์ ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 2 เมตร 25 เซนติเมตรหรือประมาณ 4 ศอกครึ่ง เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง ที่เครื่องทรง เครื่องประดับตกแต่งทุกชิ้น จัดทำแยกออกจากองค์พระแล้วนำมาสวมทับไว้ ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี ปั้นลายปิดทองประดับกระจก กล่าวได้ว่า พระพุทธมหาจักรพรรดิ ถือเป็นงานประติมากรรมชิ้นเอก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีความงามอย่างวิจิตรอลังการ

สำหรับมงกุฎของพระประธานวัดนางนององค์ที่สวมอยู่นี้ เป็นองค์ที่ 2 กล่าวกันว่าเมื่อแรกสร้างมีความวิจิตรงดงามมาก กระทั่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯให้อัญเชิญไปประดิษฐานบนยอดนภศูลของพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม เมื่อครั้งทรงปฏิสังขรณ์พระปรางค์วัดอรุณ ดังนั้น จึงต้องหล่อมงกุฎขึ้นใหม่เพื่อถวายคืน

พระวิหารคู่ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน มีพาไลล้อมรอบ ไม่มีเครื่องลำยอง ประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบเป็นลวดลายจีน

พระวิหารด้านทิศเหนือ เรียกกันว่า “วิหารหลวงพ่อผุด” สันนิษฐานว่า พระวิหารหลังนี้ เดิมน่าจะเป็นพระอุโบสถหลังเก่าในสมัยกรุงศรีอยุธยา พระประธานในอุโบสถเดิมนั้น ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อผาด” เพื่อคล้องกับหลวงพ่อผุด ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหินทรายจมดินอยู่ เล่ากันว่า สายฟ้าฟาดลงบริเวณที่องค์พระจมอยู่ ดินจึงเกิดรอยแยก มองเห็นพระพุทธรูป ชาวบ้านจึงเรียกว่าหลวงพ่อผุด ประดิษฐานอยู่หน้าหลวงพ่อผาด พระประธานองค์เดิม

ส่วนพระวิหารด้านทิศใต้ ภายในประดิษฐานพระประธานองค์ใหญ่ และเป็นเก็บรักษาพระพุทธรูปจำนวนมาก

พระปรางค์คู่ ตั้งอยู่หลังวิหารทั้ง 2 หลัง เป็นปรางค์ที่มีลักษณะเฉพาะ คือ อยู่ในผังหกเหลี่ยม และยกเก็จขึ้นมาบริเวณซุ้มจรนำ ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณ ฐานปรางค์คร่อมอยู่บนกำแพงแก้ว

พระเจดีย์ประธาน ตั้งอยู่หน้าพระอุโบสถ เป็นเจดีย์ทรงเครื่องขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณซึ่งเป็นฐานสิงห์ ย่อมุมไม้ยี่สิบ มีทางขึ้นด้านหน้า ซึ่งมีแผงกั้นทางขึ้นเป็นซุ้มทรงฝรั่ง ประดับกระเบื้องปรุลายจีน

ศาลารับเสด็จ เป็นศาลาทรงไทยสร้างขึ้นใหม่ในปีพ. ศ. 2559 โดยใช้ภาพเก่าสมัยรัชกาลที่๕เป็นต้นแบบ ตามตำแหน่งศาลาเดิมที่ขุดพบซึ่งเชื่อกันว่าเป็นศาลารับเสด็จเจ้านายชั้นสูง

ขณะนี้มีการก่อสร้างรอบโบสถ์ บรรยากาศจึงไม่มีอะไรต้องเอ่ยถึง ที่แย่คือเช็งเม้งทั้งทีหาที่เผากระดาษไม่เจอ และที่ไว้กระดูกพ่อมีขาสแตนที่ทำไว้แขวนป้ายประกาศของวัดจ่ออยู่ เห็นทีไรไม่สบายใจทุกที อยากจะย้ายออกไปไกลไกล

It is one of the old temple which was built in the reign of the King Rama III. The temple was built in Chinese Architecture style.

สถานที่สวยงาม เป็นระเบียบ สงบ สะอาดมากแม้กระทั่งห้องน้ำ มีพิพิธภัณฑ์ด้วย แต่ช่วงนี้ไม่เปิดให้เข้าชม เป็นสถาปัตยกรรมเก่าสมัย ร. 3

วัดเก่าแก่ สมัยรัชกาลที่ 3 ผูกพันธ์กับวัดนี้ตั้งแต่เด็ก อัฐบรรพบุรุษอยู่ที่วัดนี้ ไปกันประจำทุกปี มีสถาปัตยกรรมแบบจีน เพราะสมัย ร. 3 ไทยเรามีการติดต่อค้าขายกับเมืองจีน สวยงามมาก มีโอกาสไม่ควรพลาดครับ

สถานที่ตั้ง ถนนวุฒากาศ ซอย 42 แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. อยู่บริเวณ ใกล้เคียงกับ วัดหนัง และวัดราชโอรสารามวรวิหาร ทิศตะวันตกติดคลองด่าน
-การเดินทาง จากถนนราชพฤกษ์ แยกเข้าถนนวุฒากาศ ขวามือเป็นซอยหมายเลขคู่ ถึงซอย 42 มีป้ายเล็กๆบอกทางเข้าวัดหนัง วัดอยู่ซ้ายมือก่อนขึ้นสะพาน
-จากการศึกษาประวัติวัด ทราบว่า วัดนี้สร้างมาสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เช่นเดียวกันกับวัดใกล้เคียง แต่ร้างมานาน
-ในรัชสมัยพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นยุคเฟื่องฟู ด้าน วัฒนธรรม วรรณคดี ศิลปกรรม และการสร้างวัด พระองค์โปรดให้มีการสร้างวัด และบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดเก่า วัดร้าง ขึ้นเป็นจำนวนมาก วัดนี้ก็เช่นเดียวกัน
-มีการสร้างวิหาร สองหลัง โบสถ์หนึ่งหลัง ล้วนศิลปะแบบสมัยพระองค์ทั้งสิ้น เป็นแบบก่ออิฐถือปูน ทรงปั้นหยา ศิลปะแบบจีนปนไทย (จีนล้วนๆจะเป็นแบบศาลเจ้า) แต่ในส่วนของเจดีย์ ยังยึดแบบไทยมาแต่เดิม
-พระประธานในโบสถ์สร้างด้วยนวโลหะ เคลือบทอง ปางพระมหาจักรพรรดิ์ ปางมารวิชัย อยู่บนฐานชุกชีเดี่ยว ซึ่งไม่ค่อยพบที่วัดใดมาก่อน ผู้รีวิว ได้พบที่วัดกระทิงราย อ. บางละมุง ชลบุรี แต่เป็นปางสมาธิ และพบที่วัดโบสถ์ ในโบสถ์เก่า อ. เมือง ปทุมธานี สร้างด้วยปูนปั้น สมัยอู่ทอง ปางมารวิชัย
ทั้งสามวัดต่างยุคสมัยกัน

วรวิหารที่เรียบๆ ชาวบ้านๆ วัดหนึ่งในย่านนี้_ทอดกฐินที่ผ่านมาล่าสุด นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ มาเป็นประธานในพิธีฯ ด้วยคร้าบบบ

สนใจประวัติเรื่องราวของสามก๊ก มาดูได้ที่วัดนี้มีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องสามก๊กให้ศึกษา พระประธานทรงเครื่องสวยงามมาก บานประตูหน้าต่างมีการประดับมุกสวยจริงๆ ช่วงนี้กำลังมีการบูรณะคงต้องรอซักหน่อยสำหรับผู้ชอบถ่ายรูป

วัดนางนอง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี อยู่ไม่ไกลจาก BTS วุฒากาศ มีความงดงามของสถาปัตยกรรมไทย ผสมศิลปะจีน ซึ่งเป็นแบบพระราชนิยมในรัชกาลที่ 3 เรามาถวายสังฆทานที่นี่ หลวงพ่อนำสวดมนต์​ให้ พระพุทธมหาจักรพรรดิ​เป็นพระประธานในพระอุโบสถ ทรงเครื่องกษัตริย์ ปางมารวิชัย เครื่องทรงที่ประดับทุกชิ้น หล่อแยกออกจากองค์พระ และนำมาสวมทับไว้ งดงามมาก

วัดสวยงดงาม มีโบราณสถาน ที่สำคัญยุครัชดกาลที่3 และมีภาพเขียนฝาผนังของศิลปินในยุคต้นรัชกาลที่3 งดงาม ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ มี งานแกะสลักมุกบาน ประตูงาน craft ของศิลปินยุคขั้นสูง และมีพระพุทธรูปงดงามท้งองค์พระมหาจักพรรดิ์ ทรงเครื่องม
ถ้าบูรณะเสร็จจะมาชื่นชมใหม้ พื้นที่กว้างดีจอดรถง่าย และวิวดีด้านหลัง ติดคลองด้วย

วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา ได้รับการบูรณะใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระอุโบสถและพระวิหารจึงเป็นสถาปัตยกรรมแบบพระราชนิยม คือเป็นศิลปะจีนผสมผสานกับศิลปะไทย ไม่มีช่อฟ้าใบระกา หน้าบันประดับด้วยเครื่องเคลือบ

ภายในพระอุโบสถมีงานจิตรกรรมฝาผนังที่สวยสดงดงาม บานประตูหน้าต่างเป็นงานจิตรกรรมลงรักปิดทอง และตกแต่งด้วยรูปภาพจีนกรอบทอง พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ทรงเครื่องกษัตริย์ มีพระนามว่า พระพุทธมหาจักรพรรดิ

ไปครั้งใดก็ยังคงความสวยงามขององค์​พระประธาน. พระทรงเครื่องกษัตริย์​ที่มีสามองค์​ที่สวยงามในศิลปะ​ แต่ที่งดงามกว่าในสามวัด​ ที่วัดนางนองนี้สามารถ​ถอดเครื่องทรงออกได้. มีสลักติดไว้

วัดสวยย่านวุฒากาศ ประวัติยาวนานตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา สถาปัตยกรรมไทยผสมจีน แบบพระราชนิยมในรัชกาลที่ 3
พระประธานงดงามมาก ควรไปสักการะ ที่จอดรถสะดวกสบาย

เป็นวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามย่านฝั่งธนบุรี เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี สถาปัตยกรรม ก่อสร้าง ในสมัยรัชกาลที่ 3 การก่อสร้าง มีทั้งจากไทยและจีน ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐาน พระพุทธมหาจักรพรรดิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง 1 ใน 3 องค์ที่มีอยู่ในประเทศไทย ช่วงนี้มีการเปิด พระอุโบสถ เพื่อให้ พุทธศาสนิกชนกราบไหว้บูชา เพื่อเป็นสิริมงคล ให้กับตัวเองและครอบครัว

ไปถึงวัดนางนองช่วงพระท่านทำวัตรเย็นพอดี ได้มีโอกาสนั่งสวดมนต์ทำวัตรเย็นด้านนอกโบสถ์ด้วยค่ะ รู้สึกได้รับบุญเต็มๆเลยค่ะ หลังพระท่านทำวัตรเย็นเสร็จ ก่อนปิดโบสถ์ได้มีโอกาสเข้าไปกราบพระพุทธมหาจักรพรรดิ ท่านงดงามมากค่ะ รู้สึกถึงอานุภาพพลังบารมี และความมีเมตตาขององค์ท่านค่ะ แต่น่าเสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากค่ะ คราวหน้าไม่พลาดแน่นอนค่ะ อยากให้ไปกราบไหว้ท่านเยอะๆนะคะ ท่านศักดิ์สิทธิ์มากค่ะ

A temple build during the reign of Rama III. The decorations & murals of its Ubosot are exceptional.

เป็นวัดเก่าแก่ในย่านฝั้งธนบุรีครับมีหลวงพ่อพระพุทธมหาจักรพรรดิน่าไปกราบเพื่อสิริมงคลแก่ตัวเองมาก