Wat Makut Kasatriyaram

ที่จอดรถแบบเสียเงินค่าจอด ที่จอดกว้าง แต่ถ้ามาพร้อมกัน อาจจะไม่พอ ถ้ามีธุระต้องไป แนะนำให้ไปก่อนเวลาเล็กน้อยครับ

ีมีห้องน้ำติดแอร์ ทางเข้าใช้ประตูเลื่อนเปิดปิดอัตโนมัติ สุขภัณฑ์ทันสมัย ไม่ต้องใช้มือสัมผัส สะอาดด้วยค่ะ

สถานที่รวมจิตใจทางพุทธศาสนาของชาวพุทธ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้ประจำวัด ที่จอดรถกว้างขวาง

Wat Mongkut was founded by king Rama IV or King Mongkut who was the most famous Thai King in the nation history, the westerner actually know him by the famous novel written by Anna leonowens " The king and I' bud sadly this fiction was banned to pubic in Thai. This temple can be said the temple of Rama IV
, he founded this temple and also the enclose monastery for himself and build the other closely temple in similar plan for his most beloved queen, (her name is queen Sommanas) who died in very young age cause of pregnant disorder. So, the couple of temple really a pretty romantic, like the story of Tajmahal in India but smaller in size, if you get inside the wall you can see the Buddha statue for the king standing with Buddha statue for the queen in the same basement. The architecture is unique, quite grandeur and the inside hall decorated with really fantastic highly royal artist painting, the pillar painting is different in color showed the life of Good man and evil man according to Buddhist text, the heretic as Christian and Muslim were grouped in evil man that located most far from main Buddha image that seated innermost of that hall.

พลับพลาพิมพวดี วัดมกุฏกษัตริยาราม หลักฐานที่น่าเชื่อถือในเรื่องภพภูมิ, การเวียนว่ายตายเกิด และกฎแห่งกรรม ตามคำบอกเล่าของคุญหมออาจินต์ บุญยเกตุ

วัดสงบดี​ จอดรถง่าย​ มีที่จอดรถแบบคิดเงิน​ รอบๆวัดหาของกินง่ายนะ​ ถ้ามางานศพ​ สถานที่ในวัดสะอาด​ ห้องน้ำติดแอร์​ ดูดีเลย

มีโอกาสมางานสวด วัดหลวงช่างสกุลรัตนโกสินทร์
งดงามสะอาดตา ในโบสถ์จิตรกรรมงามมากโดยเฉพาะที่เสา มีงานปั้นประดับตุ๊กตาจีนและลวดลายจีนแซมอยู่ หมู่กุฏิก้อวางตัวงดงามสเกลน่ารักสมส่วน

มีที่จอดรถ
ใกล้กับกระทรวงศึกษาธิการ และโบ๊เบ๊ เก็บค่าจอดรถในราคาถูกมาก 20 นาทีแรกฟรี ช. ม. ต่อไปช. ม. ละ 10 บาท

เจอปัญหาเรื่องเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้เข้าลานจอดรถ โดยอ้างว่าจอดได้เฉพาะผู้มางานศพ (ตอนนั้นเวลาประมาณ 10 โมงกว่า) แต่ได้เจรจาว่าจะมาพบพระที่วัด จึงยอมให้เข้า

การเดินทางค่อนข้างสะดวกสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์เนื่องจากรถไม่ติดมากนักแม้จะเป็นวันเสาร์และมีงานเผาศพ3-4งานในวันเดียวกัน ลานจอดรถก็ยังมีที่จอดไม่แออัดและมีเจ้าหน้าที่ดูแลดีครับ

มาส่งเพื่อนครับเธอไปสบายแล้ว​ ที่นี่เหมาะสมกับเพื่อนแล้วครับ​ ที่จอดรถมากและราคาถูก​ ศูนย์​รวมจิตใจพุทธศาสนิกชน​ กลาง​ กรุงเทพครับ

วัดสวยอยู่ใกลเตลาดสดเทเวศน์แหล่งท้องเที่ยวเข่นวัดอินที่มีหลวงพ่อโตปางยืนห้ามญาติสูงประมาณตึกสามชั้นซึ่งเล่ากันว่าเป็นสถานที่สมเด็จพระพุฒาจารน์โตมาหัดเดินที่นี้ตอนเด็กจึงสร้างพระยืนไว้มีประวัติให้อ่านที่หน้าองค์พระมีภาพเขียนฝาผนังถ้าใครชอบประวัติศาตร์ลองไปการไปมีรถเมล์ผ่านเช่น23.72ลงป้ายกระทรวงศึกษาธิการแล้วเดินมาด้านหลังกระทรวงจะเห็นวัดมงกุฏวัดอินเดินเลยมาทางตลาดเทเวศน์ไม่ต้องถึงตลาดจะมีถนนใ้เลี้ยงซ้ายเดินไปประมาณหนึ่งป้ายรถจะเห็นป้ายวัดอินถ้าใครขยันเดินให้ร่างกายแข็งแรงเพื่อต้านไข้covit19ก็ลองเดินมีของกินอร่อยเยอะแต้ราคาค่อนข้าวแพงสามารถเดินต่อไปบางลำพูและวัดบวร, ถนนข้าวสาร, พิธิภัณฑ์ถ้าไม่มื่อยเดินต่อไปวัดพระแก้ว, วัดโพธิ์ใครชอบเชฟฟี่มีมุมสวยๆให้ถ่ายมากมายผมเดินมาแล้วหมดน้ำไปสองขวด

ศาสนสถานเก่าแก่ เป็นที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อดีตเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช และมีโรงเรียนใกล้กับ พระราชวังดุสิต

พระอารามหลวงขนาดใหญ่มีทั้งโรงเรียนมัธยมของเด็กและโรงเรียนของพระภิกษุสามเณรโดยเฉพาะและมีฌาปนสถานที่ญาตินิยมนำศพผู้วายชนม์ไปบำเพ็ญกุศลไม่ขาด

กั๊กที่จอดรถเก่งจังเลยครับ ประชาชนทั่วไปจอดไม่ค่อยได้ แต่คนใหญ่คนโตมี รปภ. คอยกั๊กที่ให้ นี่วัดหรือองค์กรธุรกิจครับ

ควรมีข้อมูลให้ผู้มาเยี่ยมชมได้ศึกษาเรียนรู้มากกว่านี้และสะดวกกว่านี้ เนื่องจากอยู่ใกล้ชุมชนและสถานศึกษาสามารถเผยแพร่พุทธศาสนาได้ง่ายชัดเจนโดยตรง

Hstorical Royal Buddhist temple. Beautiful traditional architecture Viharn and Chedi. Builtin King Rama4 reign.

ชอบห้องน้ำที่วัด สะอาด ทันสมัย เมื่อทำกิจส่วนตัวเสร็จแล้วไม่ต้องใช้มือกด วางมือทาบไปบนกล่องเหนือชักโครกเท่านั้นก็จะมีน้ำไหลออกมาชำระล้างทันที เป็นระบบใหม่ ถ้ามีโอกาสได้ไปควรไปใช้บริการให้ได้สักครั้ง

เป็นวัดที่สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงผนวช และทรงบันทึกเรื่องราวต่างๆไว้ เช่น วิหาร เป็นสถานที่สำหรับสวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็น ทรงพระราชทานตราพระราชลัญจกรเป็นตราประจำวัด วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหารจึงเป็นวัดประจำรัชกาลที่4

ภายหลังเมื่อมีการขุดคลองผดุงกรุงเกษม
รัชกาลที่สี่ มีพระราชดำริสร้างวัดขึ้นริมคลอง
คล้ายกับเมืองเก่ากรุงศรีอยุธยา

วัดนี้เดิมทีเรียกชื่อว่า
"วัดนามบัญญัติ"
เปลี่ยนเป็นชื่อวัดมกุฏกษัตริยาราม
เมื่อสิ้นรัชกาลที่สี่แล้ว

รูปผังของวัดที่ใช้จะคล้ายกับของวัดโสมนัสฯมาก
รวมทั้งลักษณะของสีมาเขตก็คล้ายกัน
ที่แตกต่างกันเห็นได้ชัดเจนก็ตรงที่
เจดีย์ของวัดโสมนัสฯ ทาสีทองเหลืองอร่าม
เจดีย์ของวัดมกุฏกษัตริย์ฯ ทาสีขาว

วัดมกุฏกษัตริยาราม มักจะได้ยินชื่อนี้
ในงานสวดอภิธรรมศพ
หรืองานฌาปนกิจ
ที่มักจะเป็นบุคคลสำคัญ เจ้านายชั้นสูง
ผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคม

เพิ่งได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมวัดนี้
ในช่วงปลายปี 2562

มาดูรูปแบบสีมาเขต 3 ชั้น
ซึ่งปัจจุบันจะพบเห็นเพียง 2 ชั้น
คือชั้นนอกและชั้นกลาง
สำหรับขัณฑสีมาชั้นใน
ได้ถูกรื้อออกไปแล้ว

สีมาของวัดนี้มีหน้าตารูปทรง
ที่แตกต่างจากวัดอื่น