วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร / Wat Mahathat Yuwaratrangsarit
Address | 3 ถนน Tha Prachan - Wang Lang, Phra Borom Maha Ratchawang, Phra Nakhon, Bangkok, Thailand |
Phone | +66 2 222 6011 |
Hours | 06:00-18:00 |
Website | www.watmahathat.com |
Categories | Buddhist Temple, Place of Worship, Tourist Attraction |
Rating | 4.6 23 reviews |
Similar companies nearby วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร / Wat Chana Songkhram — 77 Chakrabongse Rd, Chana Songkhram, Phra Nakhon, Bangkok The Temple of the Emerald Buddha — Na Phra Lan Rd, Phra Borom Maha Ratchawang, Phra Nakhon, Bangkok Wat Soonthorn Thammathan — Phaniang Rd, Wat Sommanat, Pom Prap Sattru Phai, Bangkok Wat Bang Yi Khan — 376 ถนน จรัญสนิทวงศ์, Bang Yi Khan, Bang Phlat, Bangkok |
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร / Wat Mahathat Yuwaratrangsarit reviews
23 I went to meditate in early December 2023.
As mentioned in other people's blogs, we entered through gate No. 3 and went to section 5 on the right.
Day of participation: Sunday (It was stated that they also participate on other days of the week)
Time: 14: 00-16: 00
(As mentioned in other people's reviews, it seems that there are only lessons starting at 2: 00 p.m.)
*For me, all I had to do was show up at 13: 00 and tell them I wanted to meditate. No reservation required.
By chance, there was a vegan course in Thai, so I attended it. (free)
Meditation fee: Free *However, please feel free to pay as a donation.
Meditation content: standing meditation, sitting meditation (zazen), and walking meditation.
Language: English
Attire: I participated in a short-sleeved T-shirt and tie pants. (Due to the zazen session, we recommend long, loose pants)
It explains it quite clearly. If you are interested, please try participating. It was very good.
Today, it seemed like there was some kind of ceremony going on, so I couldn't go inside to see. Fortunately, I could still pay homage to the image of Somdej Phra Wanrat Luang Pu Kim Heng.
Free meditation classes for foreigners in English are at 2pm-4pm every day, NOT 7am or other options you might see elsewhere.
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เดิมเป็นวัดราษฎร์ชื่อวัดสลัก สร้างในสมัยอยุธยา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี และทรงสร้างพระบรมมหาราชวังเป็นที่ประทับและสร้างพระราชวังบวรสถานมงคลเป็นที่ประทับสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล นั้น วัดสลักเป็นวัดที่อยู่กึ่งกลางระหว่างพระบรมมหาราชวังกับพระราชวังบวรสถานมงคล สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทโปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดสลักเมื่อ พ. ศ. 2326 พร้อมกับการก่อสร้างพระราชวังบวรสถานมงคล จากนั้นทรงเปลี่ยนชื่อวัดจากวัดสลักเป็นวัดนิพพานาราม เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้ใช้วัดนิพพานารามเป็นสถานที่ทำสังคายนาในปี พ. ศ. 2331 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดพระศรีสรรเพชญ” และใน พ. ศ. 2346 พระราชทานนามใหม่ว่าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรมหาวิหาร ตามชื่อวัดในกรุงศรีอยุธยาที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช
ที่จอดมอไซต์ก็เกินไป เงินค่าจอดก็เก็บ แต่ที่จอดแทบจะไม่มีให้ใช้ ทั้งรถขูดเป็นรอยเพราะจอดเบียดมาก บางทีมาจอดท้าย ล็อคคอรถอีก ต้องมารอ ต้องขยับเอง คนเก็บเงินกับเจ้าหน้าที่ไม่เคยมาดูแล งงมาก ไม่ได้มาขอจอดฟรีนะ
เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เดิมเป็นวัดราษฎร์ชื่อวัดสลัก สร้างในสมัยอยุธยา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี และทรงสร้างพระบรมมหาราชวังเป็นที่ประทับและสร้างพระราชวังบวรสถานมงคลเป็นที่ประทับสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล นั้น วัดสลักเป็นวัดที่อยู่กึ่งกลางระหว่างพระบรมมหาราชวังกับพระราชวังบวรสถานมงคล สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทโปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดสลักเมื่อ พ. ศ. 2326 พร้อมกับการก่อสร้างพระราชวังบวรสถานมงคล จากนั้นทรงเปลี่ยนชื่อวัดจากวัดสลักเป็นวัดนิพพานาราม เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้ใช้วัดนิพพานารามเป็นสถานที่ทำสังคายนาในปี พ. ศ. 2331 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดพระศรีสรรเพชญ” และใน พ. ศ. 2346 พระราชทานนามใหม่ว่าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรมหาวิหาร ตามชื่อวัดในกรุงศรีอยุธยาที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช
Entering into Wat Mahathat temple was one of the most memorable experience I had. This is a supernatural place with Buddhist symbols such as tiled roofs, huge statues and traditional rites. I couldn't believe that religion belief of Thai people is so high like that, even they always kowtow without going to the temples everyday. I took a lot of photos with my wife because I do not want to forget it.
Paul
The only cafe near Wat Mahathat, actually within its compound near the entrance gate. Fair price, iced espresso and iced coffee/tea mix are both nice but the furnishings are poor, most tables are too low for the chairs.
สถานที่สะอาด กว้างขวาง ที่จอดรถเข้าออกสะดวก เจ้าหน้าที่มารยาทดี เป็นวัดสำคัญที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ผู้ดูแลในอุโบสถ์มีน้ำใจ น่ารักมากๆ หลวงพ่อเจ้าอาวาสเข้าถึงง่าย กราบแล้วรู้สึกปลื้มใจ
วัดมหาธาตุฯดังมากที่สุดในโลกออนไลน์เพราะว่าในสมัยโบราณไม่มีประเทศไหนรู้จักมาก่อนและไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะครับ
ไปแล้วก้อรู้ มีที่กราบสักการะหลายแห่ง ไปวัดพระแก้วฯก้อได้ ไป ม. ธรรมศาสตร์ ไปเดินท่าพระจันทร์ ท่ามหาราชถ่ายรูปสวยๆ รึจะข้ามฝั่งไปท่าศิริราช สามบาทห้าสิบสตางค์ ต่อหนึ่งคนจ้า
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เดิมชื่อว่า “วัดสลัก” ผู้สร้างวัดแห่งนี้ไม่ปรากฏนาม แต่สันนิษฐานว่ามีมาแต่ครั้งกรุงเก่า (กรุงศรีอยุธยา) เมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาสุรสิงหนาท (พระอนุชาธิราชของ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่๑) ทรงมาพบวัดนี้แล้ว ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ และทรงสร้างถาวรวัตถุขึ้นมาใหม่ ทรงสถาปนาวัดนี้ขึ้นเป็นพระอารามหลวงแห่งแรกในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงขอพระราชทานพระอารามจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชว่า“วัดนิพพานนานาม”
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดให้ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกที่วัดนิพพานาราม จึงโปรดให้เปลี่ยนนามพระอารามว่า “วัดพระศรีสรรเพชญ์” ต่อมาพระองค์ทรงประชุมพระราชาคณะให้จัดการศึกษาพระปริยัติธรรม และจัดให้มีการสอบไล่พระปริยัติธรรมที่วัดแห่งนี้ จึงโปรดให้เปลี่ยนนามพระอารามอีกครั้งว่า “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชวรมหาวิหาร” ตามแบบอย่างครั้งกรุงเก่า
เมื่อ พ. ศ ๒๓๔๖ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดให้เรียกวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชวรมหาวิหารว่า “วัดมหาธาตุ” ด้วยเหตุว่านามวัดดังกล่าวเป็นหลักของพระนครที่มีทุกราชาธานีในประเทศนี้ จึงควรต้องมีในพระนครอมรรัตนโกสินทร์ อีกทั้งพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระมณฑป ซึ่งเป็นพระศรีรัตนมหาธาตุก็มีอยู่ในพระอาราม และเป็นพระอารามที่สถิตสมเด็จพระสังฆราชเหมือนวัดมหาธาตุที่กรุงเก่า จึงพระราชทานนามพระอารามแห่งนี้ใหม่ในรัชสมัยของพระองค์ว่า “วัดมหาธาตุ”
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระราชทรัพย์อันเป็นส่วนของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เพื่อปฎิสังขรณ์วัดมหาธาตุ จึงโปรดให้เพิ่มสร้อยนามพระอาราม เฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชว่า “วัดมหาธาตุ ยุวราชรังสฤษฎิ์”
มาสร้างทานบารมีที่นี่ มามากกว่าสิบปีแล้ว เพียรทำ
สะสมบุญไว้ ผมมักมาทำที่คณะ 5 ศูนย์วิปัสสนากรรมฐานเสมอ และมีโอกาสก็ทำที่ศูนย์นานาชาติบ้าง ที่นี่มีประวัติที่ดีงามและเป็นศูนย์กลางนึงในการเผยแพร่พุทธศาสนาในประเทศไทย และยังได้ส่งพระธรรมฑูต ไปในต่างประเทศด้วย ถ้าที่ไหนทำบุญได้สบายใจ ทีานี่เป็น 1 สถานที่ที่ผมแนะนำ
วัดใหญ่เก่าแก่เป็นวัดหลวง พอก้าวเข้าเขตวัดแล้วรู้สึกถึงความเงียบสงบ ผ่อนคลาย ผิดกับด้านนอกที่วุ่นวายผู้คนรถรามากมาย
เป็นสถานที่ให้การศึกษาครบระบบปริยัติและปฏิบัติครบทั้งเป็นสถานวัตถุที่เลื่อมใสขอเชิญมาเที่ยวชมได้. สวะสดี
วัดที่มีประวัติศาสตร์ยืนยาว แล้วเต็มด้วยเรื่องราว โด่งดังมาในอดีต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพระสงฆ์องคเจ้า เช่นเจ้าคุณพิมลธรรมโด่งดังสุดๆ ไม่ว่าในด้านสังฆมนตรี ปกครองคณะสงฆ์ และ ในด้านการเรียนการสอน มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
และวิทยาลัยอภิธรรมสอนขั้นสูงสุด ในด้านพระพุทธศาสนา สืบต่อมาถึงยุคปัจจุบันนี้
และด้านปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เป็นตัวแทนเชื่อมโยงพุทธศาสนากับประเทศ พม่า และศรีลังกาวงค์ แล้วมีประชาชนทั่วสานุทิศมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจนล้นหลามเต็มวัด สร้างความศรัทธาแก่ประชาชนมากมาย จนสมัยนั้นเป็นที่พลิกแพงกับรัฐบาลและฝ่ายสงฆ์ หาว่าเป็นคอมมูน ฯ นี้ในยุคจอมพลผ้าชะม้าแดง จนมีการจับสึกท่านเจ้าคุณขึ้น. แต่ภายหลังท่านบริสุทธ์ ก็คืนเจ้าคุณดังเดิม
ในด้านการรจนาพระไตรปิฏกก็ได้ตรวจทานในสมัยนั้น และการอ่าน อักขระบาลีสำเนียงเสียงที่ถูกต้อง การก้มกราบเบ็ญจางค์ประดิษฐ์ในลักษณะที่สวยงามเป็นแบบอย่างแก่วัดทั้งปวง
แล้วในยุคนั้นที่พระอุโบสถได้มีการปลุกเศกหลวงปู่ทวดเป็นสมัยแรกๆ และโด่งดังมาถึงสมัยนี้ราคาหลักล้านทีเดียวแล้วพระรุ่นนี้หาไม่ได้แล้ว ผมเป็นเด็กเห็นแล้วไ่ม่ค่อยสนใจ จึงพลาดโอกาศงาม.
เพียงแต่นึกๆ. ถึง. อตีตไม่หวลกลับมาแล้วครับผม.
เป็นวัดหลวงเก่าแก่ในประวัติศาสชาติไทยและยังคงไว้สืบสานความเป็นพุทธ
มีมหาวิทลัยสงฆ์ที่สามารถเรียนไดุ้ถึงปริญญาเอกด้วย
**ฉันชอบมาปฏิบัติธรรมที่นี่ เพราะที่นี่มีพระธาตุ/และพระศีรสรรเพชร ถือว่าเป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่ง มีโบราณวัตถุให้เราได้สักการะเมื่อได้มาที่นี่
เป็นความมหัศจรรย์ซึ่งมีเพียงถนนขั้นกลาง แต่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างความสงบภายในวัดมหาธาตุกับความวุ่นวายฝั่งท่าพระจันทร์ไปลองพิสูทธ์สิครับ
เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก
ชนิดราชวรมหาวิหาร มีเพียงแค่ 6 แห่ง
ในประเทศไทย
วัดเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ราชวรมหาวิหาร
วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณวรารามราชวรมหาวิหาร
วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร (สระบุรี)
วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร (นครปฐม)
เดิมชื่อ “วัดสลัก”
รัชกาลที่ 1 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดมหาธาตุ”
ตามธรรมเนียมโบราณที่ราชธานี
จะต้องมีสามวัดสำคัญคือ
วัดมหาธาตุ, วัดราชบูรณะ, วัดราชประดิษฐ์
เป็นธรรมเนียมในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ว่า
สมเด็จพระสังฆราชจะเสด็จมาสถิต
ณ วัดมหาธาตุ
(แต่ได้ยกเลิกธรรมเนียมนี้ไปในภายหลัง)
อาคารพระอุโบสถถูกสร้างอย่างเรียบง่าย
แต่มีขนาดที่กว้างขวางใหญ่โตมาก
สามารถรองรับพระภิกษุได้เป็นจำนวนมาก
ภายในประดิษฐาน “พระศรีสรรเพชญ”
เป็นพระประธาน
ภายในอาคารพระวิหาร
ได้ประดิษฐาน “พระสักยมุนี”เป็นพระประธาน
ใบเสมาเขต มีลักษณะแตกต่างจากวัดทั่วไป
ด้วยการนำไปติดที่ผนังพระอุโบสถแทน
พระมณฑปเป็นที่ประดิษฐาน
พระบรมสารีริกธาตุ เป็นหัวใจสำคัญ
ของวัดแห่งนี้