Wat Sang Kratai
Address | Sala Daeng, Mueang Ang Thong District, Ang Thong, Thailand |
Categories | Buddhist Temple, Tourist Attraction |
Rating | 4.6 62 reviews |
Similar companies nearby Wat Muang — Hua Taphan, Wiset Chai Chan District, Ang Thong Wat Tonson — ถนนเทศบาล 10, Talat Luang, Mueang Ang Thong District, Ang Thong Wat Klang Ratchakhru — 32 หมู่ 4, Hua Taphan, Wiset Chai Chan District, Ang Thong Wat Lo Sutthawat — Sala Daeng, Mueang Ang Thong District, Ang Thong |
Wat Sang Kratai reviews
62 วัดสมัยอยุธยาตอนต้น เป็นวัดเดิมของชุมชนโบราณ สมัยนั้น
การจัดวางแปลนต่างออกไป แบ่งเป็น 3 ห้อง
มีคนในชุมชนออกร้านขายผลผลิตชุมชน ไข่เป็ดเป็นการเลี้ยงแบบไล่ทุ่ง
Everything there is.small but nice.
Like a temple in Ankor Wat / Cambodia.very beautiful and impressive to look at. If you're in the area, be sure to check it out.
วัดสังกระต่าย วัดร้างอายุกว่า 400 ปี ที่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา เหลือไว้เพียงผนังโบสถ์ที่ปกคลุมไปด้วยรากของต้นโพธิ์คอยช่วยผยุงไว้ ภายในมีด้วยกันทั้งหมด 3 ห้อง
ห้องแรก ประดิษฐานหลวงพ่อแก่นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ โดยบูรณะสร้างใหม่จากเศียรพระเก่าที่นำมาจากวิเศษชัยชาญ
ห้องกลางเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด ประดิษฐานพระพุทธรูปดั้งเดิมของวัดจำนวน 3 องค์ ประกอบด้วย หลวงพ่อวันดี (พระประธานองค์ใหญ่สุด) ส่วนหลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุขจะขนาดเล็กหน่อย ซึ่งได้รับการบูรณะต่อเศียรคืนหลังจากเคยถูกตัดวางทิ้งไว้ที่พื้นทั้ง 3 องค์
ห้องสุดท้าย เป็นห้องของปู่พญานาค และปู่โสม
กระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศขึ้นทะเบียนต้นโพธิ์ล้อมโบสถ์วัดสังกระต่าย เป็นต้นไม้ทรงคุณค่า รุกขมรดกของแผ่นดิน ตั้งแต่ปี พ. ศ. 2560
วัดสังกระต่าย เดิมชื่อวัดสามกระต่าย แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปก็เพี้ยนเป็นวัดสังกระต่าย สร้างโดยทวดติ จันทนเสวี พระมารดาของพระยาหัสกาล ตั้งแต่ก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา อดีตเคยมีพระสงฆ์จำพรรษา แต่พอพระสงฆ์เกิดแตกแยกไม่สามัคคีกัน ประชาชนเสื่อมศรัทธาจนไม่มีใครอยากมาทำบุญที่วัดนี้ จึงเป็นวัดร้าง ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา มานานนับ 100 ปี
ปัจจุบันตั้งอยู่ในพื้นที่ ต. ศาลาแดง อ. เมือง จ. อ่างทอง ติดกับเทศบาลตำบลศาลาแดง พื้นที่โดยรอบสะอาดสะอ้าน มีตลาดชุมชนอยู่ด้านข้าง แต่ด้วยวันที่ไปแดดแรงและร้อนมากเลยไม่ได้เดินดู
อยู่เขตชุมชน
มีชาวบ้านมาขายสินค้า
มี3 ห้อง 2ห้องเดินถึงกัน อีกห้องต้องเดินเข้าอีกทาง
ก้ามใส่รองเท้าเข้าภายใน
เป็นวัดเล็กๆ สันนิษฐานว่าวัดสร้างขึ้นเมื่อ 400 ปีมาแล้ว มีโบสถ์เก่าแก่ที่ปกคลุมไปด้วยต้นโพธิ์ กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนโบสถ์นี้เป็นโบราณสถานอันดับที่ 104 ของภาคกลาง บริเวณวัดมีพื้นที่ไม่มาก ที่จอดรถค่อนข้างน้อยค่ะ
วัดขุนอินทประมูล เป็นที่ประดิษฐาณพระพุทธรูปปางไสยาสน์เก่าแก่ ขนาดใหญ่มีความยาว 50เมตร อยู่ที่ตำบลอินทประมูล อำเภอโพธิ์ทอง วัดนี้อยู่กลางทุ่งนา พระวิหารหักพังหมดไม่มีหลังคา ที่หน้าพระนอนองค์นี้มีรูปเป็นของชายคนหนึ่ง เล่ากันว่าขุนอินทประมูลซึ่งเป็นนายอากรได้ยักยอกเอาเงินหลวงมาสร้างต่อเติมพระและถูกเฆี่ยนจนตาย วัดนี้จึงได้ชื่อว่าวัดขุนอินทประมูล
มีเท่าที่เห็นเลยครับ เล็กๆ ไม่ได้มีอะไรมาก อยู่ในตัวเมืองเลย หาง่าย เข้าไปในซอยไม่ลึก มีที่จอดรถ ผู้สูงอายุเดินเข้าถึงสบายๆ
ความสวยสดงดงามที่ยังคงเดิม เป็นวัดเล็กๆที่ตอนนี้ได้เหลือแต่โบสถ์ มีต้นโพธิ์ยึดตัวโบสถ์ไว้ทั้ง4ด้าน สวยมากกกก ชอบมากกกก แม่สร้อยทิพย์ แม่สร้อยสุวรรณท่านสวยมากกก (แม่นางตะเคียน) ท่านใจดี
บอกเลยว่าไปวัดนี้มาอันซีนนมากกก
ถึงวัดจะเล็ก แต่ความศักดิ์สิทธิ์ไม่เล็กเลยนะคะ ตอนไปก็มีความสุขปิติแล้ว ตอนกลับนี่มีความปิติมากยิ่งกว่า ถึงกลับร้องไห้กลับบ้านเลย ชอบค่ะสวยมากก ปิติอิ่มเอมใจมากก
เป็นวัดเล็กๆที่มีโบสถ์ เป็นที่น่า จดจำ เพราะตัวโบสถ์ มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตัวบทถูกสร้างขึ้นเมื่อนานมาแล้วและมีต้นปอโตขึ้นมาทำให้ต้นโพธิ์รวมเป็นหนึ่งเดียวกับโครงสร้างของตัวโบสถ์ รวมทั้งหลวงพ่อที่ประดิษฐานอยู่ทำให้บรรยากาศดูขลัง เป็นที่น่าสักการะบูชา ในวัดยังไม่เห็นว่ามีหลวงพ่อที่เป็นพระสงฆ
วัดร้างที่ได้รับการบูรณะ และดูแลโดยชุมชน บริเวณโดยรอบดูสะอาดตาครับ ติดอยู่อย่างเดียว ที่เอารถขยะมาจอด ตรงลานจอดรถหน้าวัด
วัดเงียบ สงบ พื้นที่ไม่มาก มีเอกลักษณ์ที่ต้นโพธิ์ล้อมล้อมโบสถ์เก่าไว้4ด้าน ด้านในมีสองห้อง มีพระพุทธรูปเก่า เดินไปด้านนอก มีประตูทางเท่าอีกทาง ให้เข้าไปไหว้พ่อปู่พญานาค และปู่โสม
ด้านนอกมีศาลากุมารแก้วและกุมารโชค และเจ้าแม่ตะเคียนทอง ด้านหลัวมีศาลเจ้าที่ ทำบุญดอกธูปเทียนตามกำลังศรัทธาได้เลย
แวะอุดหนุนสินค้าชาวบ้านที่เอามาขายราคาไม่แพง มะขามคลุกและทองม้วนอร่อยมาก ราคาไม่แพง ถุงละ20บาท ขิงดอง30บาท
ชอบมาก ถ่ายรูปได้สวย อยู่ติดถนน มีความเป็นโบราณสถาน คงสภาพอยู่จากการรักษาไว้ของรากไม้ วัดร้างไม่มีพระภิกษุสงฆ์อยู่ติดกับเทศบาล มีพระอยู่ในโบสถ์ล้างอายุเป็นพันปีปกคลุมด้วยต้นโพธิ์ มีห้องพระพุทธรูปประมาณ 3 ห้องในโบสถ์เดียวกัน
โบสถ์เก่าแก่สมัยอยุธยา (ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน) มีพระประธานให้สักการะ (บูรณะใหม่) มีชาวบ้านในละแวกนำของมาขาย แต่คนรู้จักและไปเที่ยวน้อยครับ
ความงดงามดั่งเดิมนั้นสุดวิจิตรในศิลปะที่ธรรมชาติรังสรรค์ผสานกับสถานที่วัดเก่า แต่เสียดายที่ชอบเอากระถางต้นไม้ดอกประดับมาวางเรียงรายเป็นทัศนียภาพไม่พึ่งประสงค์ แถบพวกโซ่ที่กั้นทางเข้าต่างๆใหญ่เทอะทะบัดบังความสวยงามดิบๆไปหมด น่าหดหู่มาก เพราะทัศนคติในการจัดการเป็นแบบนี้กันหลายแห่งในไทย
งดงาม ดูน่าทึ่ง Unseen อยากให้จังหวัดอ่างทองจัดการพื้นที่รอบ ๆ พร้อมโปรโมทการท่องเที่ยวสถานที่นี้ให้มากกว่านี้
พาไปเที่ยววัดโบราณ unseen ของเมืองอ่างทอง ครั้นยามได้ไปจ. อ่างทอง เลยแวะเที่ยวสถานที่สำคัญ
วัดสังกระต่าย ตั้งอยู่ที่ ต. ศาลาแดง อ. เมือง จ. อ่างทอง
ตัวโบสถ์เก่าแก่มีต้นโพธิ์ ขนาดใหญ่ขึ้นปกคลุมรอบโบสถ์ 4 ต้น รวมถึงปกคลุมภายในโบสถ์ด้วย
ภายในโบสถ์มีทั้งหมด 3 ห้อง
ห้องที่ 1 พระหลวงพ่อแก่น
ห้องที่ 2 พระประธาน คือ หลวงพ่อวันดี และหลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุข
ห้องที่ 3 ปู่ฤาษี
#thailand
เป็นวัดร้างไม่มีพระภิกษุสงฆ์อยู่ติดกับเทศบาล สถานที่จอดรถกว้างขวางจอดได้ เป็นร้อยคันอยู่ติดถนนไม่ไกลจากถนนใหญ่มากนัก สะอาดชุมชนช่วยกันดูแล มีพระอยู่ในโบสถ์ล้างอายุเป็นพันปีคล้ายๆกับวัดบางกุ้งหรือวัดพระงามที่อยุธยา แต่ที่นี่ปกคลุมด้วยต้นโพธิ์ครับ มีห้องพระพุทธรูปประมาณ 3 ห้องในโบสถ์เดียวกัน
The hundreds years Buddhist temple with some remains structures still keep shape by the true keeper call "Nature". I'm very impressed with the pairs of nature and ancient building and people around this site.
Good with:
Clean area
Small market
Food and Beverage
Close to main road
Quiet and peaceful when tourists gone
No ticket
Very recommend
โบราณสถานวัดสังกระต่าย มีการขุดค้นทางและขุดแต่งโบราณคดี เพื่อตรวจสอบรูปแบบอาคาร อายุสมัย ภายในประดิษฐานหลวงพ่อแก่น
เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนต้น ปัจจุบันมีโบราณสถานเป็นพระอุโบสถ ไม่มีหลังคาที่มีต้นโพธิ์ขึ้นปกคลุม